|
|
|
|
|
|
กลยุทธ์วันนี้ >> ขึ้นตาม Sentiment
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET เมื่อวันศุกร์พลิกกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบ 3 วันทำการกว่า 10 จุด จากการกลับเข้าซื้อของต่างชาติกว่า 2.3 พันลบ. โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานและท่องเที่ยวที่มีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่น ทำให้ทั้งปีนี้ SET ให้ผลตอบแทนเป็นบวก 2 ปีติดต่อกัน (+13.7% Y-Y) ครั้งแรกในรอบ 9 ปี แต่เมื่อเทียบกับภูมิภาคยังให้ผลตอบแทนเป็นอันดับสามจากท้าย กลุ่มที่โดดเด่นมากในปีก่อนคือ ปิโตรเคมี ขนส่ง ท่องเที่ยว ยานยนต์ และอสังหาริมทรัพย์
แนวโน้มตลาดวันนี้ : คาดว่า SET ยังขยับขึ้นต่อได้ แม้อาจเผชิญแรงขายจาก LTF/RMF อยู่บ้าง แต่บรรยากาศการลงทุนที่สดใส โดยเฉพาะตลาดเอเชียที่ได้แรงหนุนจากการเปิดเผย PMI ภาคการผลิตของจีน ธ.ค. 17 (จัดทำโดย Caixin) ซึ่งสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ 51.5 มากกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 50.7 รวมถึงแผนกระตุ้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ จะทำให้ SET ได้อานิสงส์เชิงบวกตามไปด้วย นอกจากนี้ เราพบว่าสัปดาห์แรกของ SET มักให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย 1% W-W และทั้งเดือน ม.ค. ให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย 2% M-M ด้วยความน่าจะเป็น 70%
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่ที่ยัง Laggard รวมถึงหุ้นขนาดเล็กที่มี growth story ชัดเจน
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, CPN, ORI, RSP, TKN
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> ADVANC <<
- ยอดใช้ Data ในเทศกาลปีใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งการ Live และ Share ใน social media รวมถึงการส่งความสุขผ่าน Line
- เรายังคาดกำไรปกติ 4Q17 โตแข็งแกร่ง +1.3% Q-Q, 16.5% Y-Y ส่วนทั้งปี 2017 คาด -4.9% Y-Y ก่อนจะกลับมาโตครั้งแรกในรอบ 3 ปี +9.6% Y-Y ในปีหน้า จากการลงทุนที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว การแข่งขันที่คาดว่าจะไม่รุนแรงกว่าเดิม และการขยายตลาด Enterprise หลังเข้าซื้อ CSL
- NVDR ซื้อสุทธิใน ธ.ค. 17 มากสุดในรอบ 4 เดือน 618 ลบ. สวนทางกับยอดขายสุทธิของต่างชาติใน SET ที่ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 มากถึง 9 พันลบ.
- ยังแนะนำซื้อในฐานะ Top Pick ของกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 220 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
- (0) มุมมองตลาดเดือน ม.ค. SET ที่ปรับขึ้นเร็วในเดือน ธ.ค. ทำให้โอกาสในการปรับฐานในเดือนนี้มีสูงขึ้น สอดคล้องกับสถิติตั้งแต่หลัง subprime ที่ SET เดือน ม.ค. เฉลี่ย +0.4% M-M ยกเว้นปีที่ปรับขึ้นไปแรงในเดือน ธ.ค. มักตามมาด้วยการปรับฐานในเดือนถัดไป การปรับฐานเป็นโอกาสให้เลือกซื้อหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ และหุ้นเล็กที่มี growth story ชัดเจน เพราะแนวโน้มการลงทุนในปีนี้ยังสดใสตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำไรของบจ. เราคง SET Target ปีนี้ที่ 1,900 จุดซึ่งอาจได้เห็นก่อนสิ้นปีเพราะความเสี่ยงส่วนใหญ่อยู่ช่วงปลายปี หุ้นเดือนนี้แนะนำ BBL, CPN, ORI, RSP, TKN
- (+) มุมมอง MAI ใน 1Q18 เป็นบวกมากขึ้น ดัชนี MAI ปี 2017 ปรับลง 12% ตรงข้ามกับ SET ที่ +13% เพราะกำไร 9M17 ของทั้งกลุ่ม MAI ที่ลดลง 62% Y-Y มีเพียงกลุ่มเทคโนโลยีที่โดดเด่นสุดทั้งผลประกอบการและราคาหุ้น อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า Downside ของ MAI ค่อนข้างจำกัด เมื่อพิจารณาจาก Spread ของ PBV และ Dividend Yield เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต และการเติบโตของผลประกอบการที่จะสูงในปี 2018 จากฐานที่ต่ำในปีก่อนและการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ เราคาดว่าหุ้นที่เราศึกษา 17 บริษัทใน MAI จะมีกำไรปกติ +16% เป็น 2,076 ล้านบาทในปี 2017 และโตมากขึ้น +39% เป็น 2,889 ล้านบาทในปี 2018 ขณะที่แรงขาย LTF/RMF ที่มักเกิดขึ้นในช่วงต้นปีไม่กระทบหุ้น MAI เราจึงให้น้ำหนักเป็น Overweight สำหรับการลงทุนใน 3 เดือนข้างหน้า Top Picks คือ ATP30, ARROW, COMAN, CMO, MGT, และ PPS
- (+) ธปท.เผยเศรษฐกิจ พ.ย. ขยายตัวดี เครื่องจักรทุกตัวเดินหน้า แม้จะมีผลของฤดูกาลแต่ก็เป็นสัญญาณที่ดี การส่งออกและท่องเที่ยวดีต่อเนื่อง การจับจ่ายของเอกชนกลับมาขยายตัวในเกือบทุกหมวดสินค้า การลงทุนภาคเอกชนดีขึ้นจากเดือนก่อนโดยเฉพาะภาคก่อสร้าง เราคาด GDP 4Q17 น่าจะโตได้ 4% และเร่งตัวขึ้นในปีหน้า
- (+) มุมมองกลุ่มสื่อสารปี 2018 เรามีมุมมองบวกต่อกลุ่มสื่อสารในปี 2018 จากการเติบโตของโลก Digital ซึ่งเป็นบวกต่อทั้งกลุ่ม Mobile Operator และ SI เพราะการใช้งานด้าน Data ที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ทำให้เกิดแรงกระตุ้นในการลงทุนระบบ IT มากขึ้น แต่กลุ่มดาวเทียมยังต้องเผชิญแรงกดดันจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เรายังให้น้ำหนักการลงทุน Overweight เลือก ADVANC และ AIT เป็น Top Picks
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$538ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$224ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$72ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค นักลงทุนจับตาต่อแผนการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์และนโยบายการเงิน Fed ของประธานคนใหม่ที่จะเข้ารับตำแหน่งในเดือน
- (+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนิ้ปิดพุ่งขึ้นทั้ง 3 ตลาดและทำ new high หนุนโดยนักลงทุนที่มีมุมมองเป็นบวกเกี่ยวกับการลงทุนในปี 2018 รวมถึงตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือน ธ.ค. ที่ออกมาแข็งแกร่ง
- (-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบหลังค่าเงินยูโรและปอนด์แข็งค่า ฉุดหุ้นกลุ่มส่งออกร่วงลง
- (+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกเล็กน้อยตามดาวโจนส์
- (0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าต่อเนื่องจากแนวโน้มเม็ดเงินไหลเข้า ล่าสุดปรับตัวในทิศทางแข็งในกรอบ 32.44-32.50 บาท/ดอลลาร์
Currency Markets
|
Curren
|
Previous
|
%change
|
Bt
|
US$*
32.44
|
32.44
|
0.00
|
US$ / Euro
|
1.21
|
1.21
|
-0.01
|
Yen / US
|
112.28
|
112.29
|
0.01
|
Yuan / US$
|
6.49
|
6.51
|
0.21
|
Commodity Prices
|
Current
|
Prev
|
%change
|
C
|
ude Oil
60.41
|
60.37
|
0.07
|
Gold (COMEX)
|
1,321.90
|
1,316.10
|
0.44
|
BDI
|
1,366.00
|
1,430.00
|
-4.48
|
ZINC
|
3,349.00
|
3,319.00
|
0.90
|
CRB index
|
194.72
|
193.86
|
0.44
|
Source: Bloomberg *onshore rate
- (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดลบ 0.05 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 60.37 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าท่อส่งน้ำมันโฟร์ตีส์ในทะเลเหนือของอังกฤษซึ่งมีกำลังลำเลียงน้ำมัน 4.5 แสนบาร์เรล/วัน เริ่มกลับมาดำเนินการตามปกติได้อีกครั้งตั้งแต่ 30 ธ.ค. ที่ผ่านมา รวมถึงตลาดติดตามการประท้วงในอิหร่าน
- ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดบวก 6.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,316.10 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ซึ่งดอลลาร์อ่อนค่าเพราะการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
3ม.ค.
|
- ไทย: เงินเฟ้อ (ธ.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (ธ.ค.)
- สหรัฐ: ISM Manufacturing (ธ.ค.), FOMC Minutes
|
4ม.ค.
|
- จีน: Caixin China PMI Composite (ธ.ค.)
-สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ธ.ค.)
|
5ม.ค.
|
- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตร (ธ.ค.)
|
8ม.ค.
|
- ยูโรโซน: Economic confidence (ธ.ค.)
|
11ม.ค.
|
- ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ธ.ค.)
|
|
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
03 ม.ค. 2561 เวลา : 10:34:22
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น