Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายพบแรงขายทำกำไรใน AOT ต่อเนื่อง และกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP, SPRC, IRPC ตามค่าการกลั่นที่อ่อนตัวลง และยังมคงมีแรงขายในกลุ่มค้าปลีกอย่าง BJC, MAKRO, HMPRO อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อเด่นใน SCC, BH และกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่าง GULF, BGRIM ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,794 จุด (-0.2 จุด) ด้วย มุลค่าการซื้อขายสูงกว่า 8.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 7.5 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 ที่ 4,359 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 7,258 สัญญา
Investment theme
SET พยายามเลี้ยงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน : หากนับตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นมากกว่า 100 จุด โดยพยายามเลี้ยงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน เพื่อรักษาภาพทางเทคนิคให้มีแนวโน้มเป็นภาพ Sideway up โดยระหว่างการปรับขึ้นจะเห็นว่าเกิด Sector Rotation กันในระหว่างกลุ่มเช่น กลุ่มพลังงาน, ค้าปลีก, ท่องเที่ยว, โรงไฟฟ้า และ ICT ซึ่งเราคาด SET จะยังคงแกว่งตัวในลักษณะเพื่อรอปัจจัยสนับสนุนใหม่จากทั้งต่างประเทศและในประเทศ โดยสำหรับปัจจัยในประเทศเราแนะให้นักลงทุนจับค่า 2 ประเด็นสำคัญ ได้แก่เรื่องค่าเงินบาท ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วและแรง ใกล้ทดสอบระดับ 32.00 บาท ต่ำสุดในรอบ 40 เดือน ซึ่งล่าสุด Bank of Tokyo ได้ประเมินว่าประเทศไทยกับอินเดียอาจมีความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน และเรื่องอัตราเงินเฟ้อ แนะจับตาประเด็นค่าแรงขั้นต่ำ และสำหรับกลยุทธ์การลงทุน นอกเหนือจากพื้นฐานที่เราได้แนะนำนักลงทุนแล้ว เราแนะให้นักลงทุนซื้อ-ขายในหุ้นที่มีสภาพคล่อง และขายทำกำไรส่วนหนึ่งหาก SET ปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน
Investment theme: เรามองว่ามีโอกาสเริ่มเข้าสู่ช่วงแกว่งตัวบริเวณ 1,780-1,820 โดยเราแนะแบ่งเงินส่วนหนึ่งเข้ามายังกลุ่มปันผลเช่น PTTGC, LH, SF, TISCO และทยอยสะสมหุ้นขนาดกลางอย่าง CKP, INGRS
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมคาด MPI ปี 2561 ขยายตัวประมาณ 1.5-2.5% / EIA คาดสหรัฐผลิตน้ำมันสหรัฐพุ่งทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10.27 ล้านบาร์เรล /ปลัดกระทรวงแรงงานเผยยังไม่ได้ข้อสรุปในการประชุมค่าแรงขั้นต่ำ / Brent ปรับขึ้นต่อที่ 69.2 เหรียญ/บาร์เรลภายหลังสหรัฐรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบลดลงสูงกว่าคาด muj 4.9 ล้านบาร์เรล / จีนรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ต่ำกว่าคาดเล็กน้อยที่ 0.3% / จีนพิจารณาชะลอการเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐ
Stock pick : ADVANC
ADVANC: ทยอยสะสม 220.0 บาท/หุ้น
ปัจจุบัน คสช.กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายช่วงเวลาการชำระค่าสัมปทานคลื่น 900 MHz ของบริษัทในงวดสุดท้ายในปี 2562 ประมาณ 6.0 หมื่นล้านบาท (ยื่นเสนอขอแบ่งจ่ายเพิ่มเป็น 3-5 งวด) ซึ่งถือเป็นบวกต่อบริษัทฯ ทั้งในเรื่องของกระแสเงินสด และคลายความกังวลต่อความสามารถจ่ายปันผล
เราคาดการแข่งในอุตสาหกรรมช่วง 4Q60-1Q61 ลดลงสนับสนุนจาก Handset subsidy ไม่สูงอย่างที่ตลาดคาด ในขณะที่คาดคงจำนวนลูกค้าประมาณ 44 ล้านเลขหมาย (คิดเป็น 48-50% ของทั้งหมด) และการเร่งทยอยปรับลูกค้าเป็น Postpaid คาดส่งผลบวกให้ ARPU เติบโตประมาณ 3-4%
คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเหมาะสม 220.0 บาท/หุ้น
Trading idea – – สะสมกลุ่มสื่อนอกบ้าน (PLANB, MACO, VGI) หลีกเลี่ยงการลงทุน TOP
Technical View
อ่อนตัวลงปิด Gap แล้วพยายามแกว่งออกข้าง: กราฟราย 60 นาที ดัชนีเปิดโดดและพยายามแกว่งขึ้นต่อตามรูปแบบในอดีต แต่ด้วยแรงขายจาก AOT และกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีบางตัว ทำให้ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิด Gap ที่บริเวณ 1795 จากนั้นพยายามแกว่งตัวออกข้าง ระยะกลางเรายังคงพิจารณาแนวรับ 1784 และ 1780 เป็นจุดตัดสินใจ หากยังไม่หลุด มองว่ายังลุ้นเล่นการ Rebound ได้ มองแนวต้านที่ 1800 และ 1805
กลยุทธ์การลงทุน 1) ลงทุนระยะสั้น หาก Rebound ไม่ผ่าน 1800 ทยอยขายทำกำไร, ลงทุนระยะกลางหากไม่หลุด 1780 ยังแนะนำถือหุ้นต่อ 2) Trading ในกรอบ 1784-1810
แนวรับ : 1784, 1780 แนวต้าน : 1800, 1805
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : -
ปัจจัยในประเทศ : จับตาราคาพืชผลเกษตร (ข้าว, ยางพารา,ปาล์ม) /
หุ้นเทคนิค:
TRUE (B 6.50-6.60, Tp 6.80//7.00, Cut 6.45)
BANPU (B 21.40, Tp 22.30, Cut 21.20)
ข่าวเด่น