คำแนะนำ
หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป และเมื่อราคาอ่อนตัวลงให้เข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,311-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,311 1,302 1,293
แนวต้าน 1,328 1,337 1,346
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของ 3 ดัชนีสำคัญของตลาดหุ้นนิวยอร์กทั้งดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq หลังจากบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่จีนซึ่งมีหน้าที่พิจารณาการถือครองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีน ได้เสนอให้รัฐบาลจีนชะลอ หรือยุติการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเนื่องจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีความน่าดึงดูดน้อยลงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ อีกทั้งความตึงเครียดของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้จีนลดการซื้อพันธบัตรสหรัฐเช่นกัน นอกจากนี้ดอลลาร์และสินทรัพย์เสี่ยงยังได้รับแรงกดดันเพิ่มหลังจากเจ้าหน้าที่แคนาดาระบุว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อาจประกาศนำสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลง NAFTA ในเร็วๆนี้ สถานการณ์ดังกล่าวหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 เดือน ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงอีก -2.95 ตัน ขณะที่วันนี้แนะนำนักลงทุนติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาขยับขึ้นแต่ก็มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเมื่อราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยในช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับอยู่ที่ 1,311-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้อ
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,311-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง
ข่าวเด่น