กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways พักฐานได้ตามคาดในช่วงเช้า ก่อนที่ช่วงบ่ายจะไต่ระดับบวกขึ้นมาได้หลังนักลงทุนเริ่มลดความกังวลสำนักปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีนกล่าวว่าการชะลอหรือยุติซื้อพันธบัตรสหรัฐฯอาจเป็นข่าวลวง ทำให้ตลาดสามารถปิดเหนือ 1,800 จุดได้ ณ สิ้นวัน อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ทำให้ตลาดบวกแรงส่วนหนึ่งเกิดจาก EA ปรับตัวขึ้นแรงและกระทบ SET เป็นบวกราว 3.8 จุด สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องรวมกันราว 2,800 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up ได้ต่อเนื่องหลังยืนเหนือ 1,800 จุดและได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่พุ่งขึ้น อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่ากรอบการบวกยังจำกัดอยู่บริเวณ 1,810-1,813 จุด เนื่องจากตตลาดต้องจับตาการประกาศผลการดำเนินงาน 4Q17 โดยกลุ่มธนาคารจะรายงานวันนี้เป็นวันแรกเริ่มด้วย TISCO และออกมาหนาแน่นในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากไม่ได้สร้างเซอร์ไพร์สเชิงบวกอาจกดดันให้ดัชนีมีโอกาสพักฐานได้ เราจึงคาดว่าหุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 4Q17 แข็งแกร่งน่าจะ Outperform ตลาด
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไร 4Q17 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, CPN, ORI, RSP, TKN
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$126ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$166ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไทย US$36ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางกลับมาไหลเข้าภูมิภาค หลังตลาดคลายกังวลต่อข่าวจีนชะลอการลงทุนในพันธบัตรสหรัฐ และราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> SVOA <<
- ราคาปัจจุบันแทบไม่มี Downside เพราะ Market Cap. ของ LIT และ IT คิดเป็นส่วนของ SVOA ราว 1.34 บาท/หุ้น และเราคาดว่า SVOA มีโอกาส Revalue โดยการ Spin-off บริษัทลูก 3 แห่ง ซึ่งมีมูลค่ารวมกันราว 0.50 บาท/หุ้น เท่ากับตลาดให้มูลค่าธุรกิจหลักเพียง 0.26 บาท/หุ้น เทียบเท่าเงินสดในมือต่อหุ้นพอดี
- คาดกำไร 4Q17 ที่ 29 ลบ. เพิ่มขึ้นโดดเด่นเมื่อเทียบกับ 4Q16 ที่ทำได้เพียง 2 ลบ. หนุนทั้งปี 2017 มีกำไร 156 ลบ. +114% Y-Y และคาดโตต่อเนื่อง 13% Y-Y อยู่ที่ 176 ลบ. ในปี 2018 จากการลงทุนรับเศรษฐกิจดิจิทัลของภาครัฐ
- PE2018 ต่ำเพียง 11 เท่า ค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 19 เท่า แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) TISCO ประกาศงบ 4Q17 วันนี้ เราคาดกำไรทรงตัว Q-Q ที่ 1.5 พันลบ. (+16% Y-Y) แม้เริ่มรับรู้รายได้ SCBT แต่จะมีค่าใช้จ่าย one-time เกิดขึ้นบางส่วน เช่น ค่าจดจำนองสินเชื่อที่อยู่อาศัย และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ส่วนกำไรทั้งปี 2017 คาดที่ 6 พันลบ. +20% Y-Y และปี 2018 ที่ 6.67 พันลบ. +11% Y-Y ทั้งนี้ ข้อมูลสถิติบ่งชี้ว่าหุ้นกลุ่มแบงก์ถูก sell on fact หลังประกาศงบมา 5 ไตรมาสติดต่อกัน รอบละ 3-5% หากงบของ TISCO ไม่สร้างเซอร์ไพร์สเชิงบวก อาจกดดันให้ Bank Index พักฐานระยะสั้นได้ ซึ่งเรายังมองเป็นโอกาสซื้อลงทุน Top Pick ยังเป็น BBL และ KBANK
(0) Rating สัปดาห์แรกของกลุ่มมีเดีย ราคาหุ้น WORK ดูจะถูกกดดันจาก Rating สัปดาห์แรกของ ม.ค. 18 ที่ลดลงมากที่สุด ขณะที่ BEC และ RS ยังใกล้เคียงเดิมแม้ Rating จะลดลงเช่นกัน ส่วน MONO ที่ Rating เพิ่มขึ้น คาดว่าจะมาจากช่วงหยุดยาวซึ่งผู้ชมอยู่บ้านดูซีรีย์ เรามองว่าเร็วเกินไปที่จะทบทวนประมาณการของ WORK โดยคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของ Rating ในระยะถัดไป จากรายการใหม่เช่น The Show และซีรีย์อินเดีย แนะนำถือหรือซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาเป้าหมาย 98 บาท ส่วน RS ยังแนะนำซื้อเช่นกัน ราคาเป้าหมาย 28 บาท ขณะที่ BEC ยังแนะนำขาย และ MONO แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น โดย SAA Consensus ให้ราคาเป้าหมาย 4.50-5.60 บาท
(+) RSP คาดกำไร 4Q17 ฟื้นตัวต่อเนื่องมาอยู่ที่ราว 50-55 ลบ. จาก 46 ลบ.ใน 3Q17 ตามการฟื้นตัวของกำลังซื้อและเป็นช่วง High Season ขณะที่ ยอดขายแบรนด์ Pony ทำได้ดีกว่าเป้าเกือบเท่าตัว และแผนเปิดสาขาที่กัมพูชามาเร็วกว่าคาด น่าจะได้เห็นสาขาแรก ก.พ. 18 ซึ่งเรายังไม่ได้รวมในประมาณการ โดยคาดกำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2017 ที่ -24% Y-Y ก่อนจะกลับมา +30% Y-Y อยู่ที่ 296 ลบ. ในปีนี้ ราคาปัจจุบันยังน่าสนใจมากในแง่ Valuation คิดเป็น PE2018 เพียง 13 เท่า ไม่ถึงครึ่งของกลุ่มค้าปลีกที่ 28 เท่า คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.5 บาท
(+) PCSGH คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ที่ 160 ลบ. ชะลอเล็กน้อย Q-Q ตามฤดูกาล แต่เพิ่มขึ้น 16% Y-Y จากกำลังการผลิตที่ยังทรงตัวในระดับสูงราว 80% และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของชิ้นส่วนกลุ่ม Non-Auto ถ้าเป็นตามคาดจะหนุนกำไรปี 2017 เพิ่มขึ้น 69% Y-Y อยู่ที่ 645 ลบ. โดยคาดว่าจะเห็นการเติบโตต่อเนื่องอีก 22% Y-Y อยู่ที่ 790 ลบ. ในปี 2018 จากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก และการเริ่มรับรู้กำไรของโรงงานในยุโรปตั้งแต่ 2H18 ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE2018 เพียง 16 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดที่ 20 เท่า และให้ปันผลสูง 5% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 13 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
12 ม.ค.
|
- สหรัฐฯ: อัตราเงินเฟ้อและยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
|
15 ม.ค.
|
- จีน: 4Q17 GDP
|
23 ม.ค.
|
- ญี่ปุ่น: ประชุม BOJคาดคงดอกเบี้ยที่ -0.10%
|
25 ม.ค.
|
- ยูโรโซน: ประชุม ECBคาดคงดอกเบี้ยที่ 0.00%
|
26 ม.ค.
|
- สหรัฐฯ: 4Q17 GDP
|
- (+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง หลังนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับประเด็นจีนอาจยุติหรือลดการซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ และการออกจากข้อตกลง NAFTA
- (-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนลบหลัง Tesco และ Mark&Spencer รายได้ผลประกอบการน่าผิดหวัง ขณะที่รายงานการประชุม ECB เดือน ธ.ค. ระบุว่าเตรียมถอนการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
- (+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวในแดนบวกจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสมากขึ้น
- (+) ค่าเงินบาทปรับตัวหลุดระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าสุดในรอบกว่า 3 ปี
- (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับขึ้น 0.23 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 63.80 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงสุดในรอบ 3 ปีจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่ารวมถึงการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,322.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศเมื่อคืนออกมาต่ำกว่าคาด
ข่าวเด่น