คำแนะนำ
เน้นการเก็งกำไรในกรอบ 1,307-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังคงพยายามยืนเหนือโซนแนวรับแรกได้ ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,328-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,315 1,307 1,293
แนวต้าน 1,328 1,337 1,346
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดเพิ่มขึ้นจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ หลังจากยูโรทะยานขึ้นขานรับรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ได้รับการเปิดเผยวานนี้ซึ่งบ่งชี้ว่า ECB เตรียมจะลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และเตรียมจะถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ประกอบกับดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบเกือบปีครึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. ด้านจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 261,000 รายในสัปดาห์ที่แล้วและเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 245,000 ราย สถานการณ์ดังกล่าวกดดันดัชนีดอลลาร์ให้ร่วงสู่จุดต่ำสุดรอบเกือบ 1 สัปดาห์และเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ อย่างไรก็ตามการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์ สตรีทที่นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกราคาทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)และยอดค้าปลีก (Retail Sales)ของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำพยายามรักษาระดับเหนือโซน 1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้เบื้องต้นประเมินว่าในระยะสั้น ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ โดยหากทะลุ 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ แนวต้านสำคัญจะอยู่ในโซน 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับนั้นอยู่ในบริเวณ 1,315-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
อาจเก็งกำไรในกรอบ 1,307-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยรอการอ่อนตัวลงเพื่อเปิดสถานะซื้อในโซนใกล้ 1,315-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดอาจชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคาทองคำ ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นไม่สามารถผ่าน 1,328-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์แนะนำให้ปิดสถานะซื้อ
ข่าวเด่น