รายงานข่าวจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ 25,574.73 จุด เพิ่มขึ้น 205.60 จุด หรือ +0.81% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,767.56 จุด เพิ่มขึ้น 19.33 จุด หรือ +0.70% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,211.78 จุด เพิ่มขึ้น 58.21 จุด หรือ +0.81% - หุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 2% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี จากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 8 สัปดาห์ - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 63.80 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. ขยับขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 69.26 ดอลลาร์/บาร์เรล - นักลงทุนคาดหวังแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯออกมาดีเกินคาด โดยธนาคารเจพีมอร์แกน เชส, ธนาคารแบล็คร็อค และธนาคารเวลส์ฟาร์โก จะประกาศผลประกอบการในวันนี้ - ตลาดมีปัจจัยลบ หลังจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่ระดับ 261,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว และจากการแสดงความเห็นของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กซึ่งระบุว่า มาตรการปรับลดภาษีของปธน.ทรัมป์จะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะร้อนแรงเกินไป และอาจทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในปี 2561
ข่าวเด่น