|
|
|
|
|
|
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways Up ได้ตามคาดหนุนโดยกลุ่มพลังงานและธนาคาร โดยแม้จะพุ่งขึ้นทำ New High ระหว่างวัน แต่ยังคงเห็นแรงขายทำกำไรออกมากดดันและทำให้ปิดตลาดบริเวณ 1,810 จุด ณ สิ้นวันซึ่งใกล้เคียงกับกรอบที่เราประเมิน อย่างไรก็ตามสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติต่างพลิกกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 2,617 ลบ. และ 2,363 ลบ. ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up ได้ต่อเนื่องโดยยังได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ยังพุ่งทำ New High และต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้ตลาดต้องติดตามเรื่องการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ รวมถึงการประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารซึ่งหากออกมาไม่ได้ดีกว่าที่คาด เชื่อว่าตลาดน่าจะมีจังหวะพักฐาน ซึ่งเรามองว่าเป็นจังหวะในการทยอยสะสมหุ้นขนาดใหญ่อีกครั้ง ส่วนระยะนี้เรายังคาดว่าหุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 4Q17 แข็งแกร่งน่าจะยังคง Outperform ตลาดฯได้ต่อเนื่อง
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไร 4Q17 แข็งแกร่ง//ทยอยซื้อหุ้นใหญ่คืนในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, CPN, ORI, RSP, TKN
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$28ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไทย US$74ล้าน ขณะที่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$91ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคเก็งกำไรก่อนเข้าสู่ Earnings Season
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> BBL <<
- คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ที่ 7.5 พันลบ. ลดลง 7.8% Q-Q และ 9% Y-Y เนื่องจากการตั้งสำรองฯ และค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นตามฤดูกาล
- แต่กำไรปี 2018 น่าสนใจมาก เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม Bancassurance จากความร่วมมือกับ AIA ซึ่งเราคาดว่าจะทำให้ฐานรายได้ค่าธรรมเนียมของ BBL เทียบเท่าธนาคารอื่นในระดับเดียวกัน โดยเราคาด Fee income +16% Y-Y และกำไรสุทธิ +15.5% Y-Y
- สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการลงทุน ยิ่งเอื้อประโยชน์ต่อ BBL มากที่สุด ขณะที่ ราคาปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 244 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) TISCO รายงานกำไร 4Q17 ตามคาดที่ 1.52 พันลบ. -3% Q-Q แต่ +17.7% Y-Y รายได้จากการดำเนินงานแข็งแกร่งมากโดย +22% Q-Q และ +49% Y-Y ตามรายได้ค่าธรรมเนียมที่ดีขึ้นจากธุรกิจประกันและการจัดการกองทุน คุณภาพสินทรัพย์แข็งแรงดังเดิม โดย NPL Ratio อยู่ที่ 2.32% จาก 2.34% ใน 3Q17 ขณะที่ Coverage ratio แข็งแกร่งมากขึ้นเป็น 197% สูงสุดในกลุ่มธนาคารในจำนวนนี้รองรับมาตรฐานบัญชี IFRS9 ไปแล้ว ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2018 ขึ้นเป็น 7.18 พันลบ. +19.6% Y-Y และปรับราคาเหมาะสมเป็น 98 บาท คงคำแนะนำถือ
(0) SCC ต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นเร็วตามราคาน้ำมันส่งผลกระทบต่อกำไร เราคาดกำไรสุทธิ 4Q17 +3.3% Q-Q, -2.0% Y-Y และกำไรสุทธิทั้งปี 2017 -2.5% Y-Y และหดตัวต่ออีก 2.8% Y-Y ในปี 2018 ประมาณการกำไรปี 2018 ที่เราปรับลง 5% ทำให้ราคาเป้าหมายปรับลงเป็น 580 บาทจากเดิม 600 บาท แต่ยังแนะนำซื้อเพราะนอกจากจะมี upside กว่า 10% ยังมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาด Dividend yield 3-4% ต่อปี ปัจจุบันมี PE 11.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอดีตที่ 13-14 เท่า และราคาหุ้นที่ laggard ถือว่าสะท้อนข่าวลบไปพอควรแล้ว
(+) BEM คาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q17 ที่ 899 ลบ. -4% Q-Q จากปัจจัยฤดูกาลที่มีวันหยุดมาก แต่โตเด่น +52% Y-Y จากมาร์จิ้นที่คาดปรับขึ้น จากค่าตัดจำหน่ายที่ลดลงตามการขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน และค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ลดลง สำหรับกำไรปี 2018 คาด +18% Y-Y จากต้นทุนที่ลดลง และจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นตามผลของการเชื่อมสายสีม่วง-น้ำเงินเต็มปี โดยมี Upside จากการเร่งเปิดประมูล รถไฟฟ้าสีม่วงใต้และส้มตะวันออก ขณะที่ราคาหุ้น 3 เดือนล่าสุดปรับลง 1.3% ไม่สอดคล้องกับพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสวนทางกับบริษัทลูกอย่าง CKP และ TTW ที่ปรับขึ้น +6% และ 17% ตามลำดับ คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 10 บาท
(+) BCH เราคาดกำไรปกติ 4Q17 -20.2% Q-Q จากปัจจัยฤดูกาล แต่ยังโตแข็งแกร่ง +22.1% Y-Y จากทั้งฝั่งรายได้เงินสดและประกันสังคมที่ยังเติบโตดี ส่งผลให้กำไรปกติปี 2017 คาดว่าจะเติบโต 17% Y-Y ขณะที่ แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2018 คาดกำไร +15.6% Y-Y จากภาวะเศรษฐกิจทีเร่งตัวขึ้น และผลบวกจากการปรับเพิ่มการจ่ายเงินประกันสังคมเต็มปี ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงเป็นโอกาสซื้อ ราคาเป้าหมาย 18.30 บาท
(+) SUN หลังจากเราได้เยี่ยมชม Smart Farming และโรงงานข้าวโพดหวาน เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่ม Yield และการทำตลาดของบริษัทมากขึ้น แต่ระยะสั้นคาดว่ากำไร 4Q17 จะถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายเข้าตลาดและบาทแข็ง ซึ่ง SUN ส่งออกไปต่างประเทศ 80% เบื้องต้นเราคาด 15 ลบ. ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 28 ลบ. เราอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการเพื่อให้สอดคล้องกับค่าเงินบาทปัจจุบัน เบื้องต้นคาดว่าจะปรับกำไรปี 2017-2018 ลงเหลือ 127 ลบ. (+13% Y-Y) และ 167 ลบ. (+31% Y-Y) ส่วนราคาเป้าหมายคาดปรับลงเหลือ 6.60 บาท จาก 7.30 บาท ยังมี Upside จึงแนะนำซื้อ (FSS เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น SUN)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
15 ม.ค.
|
- จีน: 4Q17 GDP
|
18ม.ค.
|
- ไทย: ผลประกอบการ 4Q17 ของ BBL, SCB, KTB, BAY, TMB, TCAP
|
19ม.ค.
|
- ไทย: ผลประกอบการ 4Q17 ของ KBANK, KKP
- สหรัฐฯ: การขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ
|
23 ม.ค.
|
- ญี่ปุ่น: ประชุม BOJคาดคงดอกเบี้ยที่ -0.10%
|
25 ม.ค.
|
- ยูโรโซน: ประชุม ECBคาดคงดอกเบี้ยที่ 0.00%
|
26 ม.ค.
|
- สหรัฐฯ: 4Q17 GDP
|
- (+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมายังพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องตอบรับผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มการเงินหลายตัวที่ออกมาดีกว่าคาด
- (+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกได้เช่นกันขานรับความคืบหน้าในการตั้งรัฐบาลของเยอรมนี และตอบรับเชิงบวกต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
- (+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวค่อนไปในแดนบวกจากบรรยากาศการลงทุนที่ยังคงสดใสจากฝั่งสหรัฐฯ
- (+) ค่าเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเคลื่อนไหวในกรอบ 31.87-32.00 บาท/ดอลลาร์
- (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.50 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 64.30 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงสุดในรอบกว่า 3 ปีหลังรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัฐเสียกล่าวว่าอุปทานน้ำมันของโลกยังไม่เข้าสู่จุดสมดุล
- ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 12.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,334.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า
-
|
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
15 ม.ค. 2561 เวลา : 10:18:58
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น