คำแนะนำ
ต้องสังเกตโซน 1,346ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพราะถ้าราคายังเคลื่อนตัวไม่ผ่านจุดดังกล่าว ก็ควรที่จะขายทำกำไรออกไปก่อน และรอเข้าซื้ออีกครั้งที่แนวรับ 1,331 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปริมาณการซื้อขายอาจเบาบางเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,331 1,322 1,315
แนวต้าน 1,346 1,358 1,365
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ หลังจากสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป ECB เตรียมจะลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และเตรียมจะถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน นอกจากนี้สกุลเงินยูโรยังได้รับแรงหนุนเพิ่มหลังพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) และพรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) ของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และพรรคสังคมประชาธิปไตย (SPD) สามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม 3 พรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ไม่ได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)พื้นฐานของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเป็นระดับสูงสุดรอบ 11 เดือนซึ่งสะท้อนเงินเฟ้อที่อาจจะปรับตัวขึ้นในปีนี้แต่อย่างใด สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนบริเวณ 1,339 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับวันนี้ตลาดสหรัฐจะปิดทำการเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ดังนั้นจึงไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจและปริมาณการซื้อขายอาจเบาบางกว่าปกติ
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซน 1,331-1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีผลให้ราคาดีดตัวขึ้น โดยราคามีโอกาสขึ้นมาถึงบริเวณกรอบแนวต้านโซน 1,346-1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นคาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมาแต่หากตลอดทั้งวันยังสามารถยืนเหนือระดับ 1,331 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ คาดจะเกิดแรงซื้อดันกลับขึ้นไปอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
ให้ใช้แนวรับ 1,331 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดในการเสี่ยงเข้าซื้อเก็งกำไรได้ หรือ หากรับความเสี่ยงได้น้อย หรือ ถือทองคำในมืออยู่แล้วอาจรอดูบริเวณแนวรับถัดไป 1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนแข็งแกร่งพอจึงตัดสินใจเข้าซื้อเพิ่ม อย่างไรก็ตามถ้าผ่านแนวต้าน 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการเปิดสถานะขายออกไปก่อน
ข่าวเด่น