Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นเด่น โดยยังคงมีแรงซื้อต่อเนื่องในหุ้นใหญ่อย่าง  AOT, PTT, SCB ในขณะที่กลุ่มโรงไฟฟ้า-พลังงานทดแทนเริ่มผันผวนทั้ง GULF, BGRIM, CKP, BCPG อีกทั้งมีแรงเก็งกำไรในกลุ่มนิคมอย่าง AMATA, WHA ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,822 จุด   (+12.4 จุด) ด้วย มูลค่าการซื้อขายสูงกว่า 9.4 หมื่นล้านบาท  เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 8.1 หมื่นล้านบาท (มี Biglot  LH, SCC รวมประมาณ 9.2 ร้อยล้านบาท)

  นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยอีกครั้งที่ 1,480 ล้านบาท  และคงสถานะ Long SET50 index future ที่ 9,535 สัญญา

Investment theme
  ปัจจุบันตลาด ซื้อขายบน Liquidity ในขณะที่เชิงพื้นฐาน หุ้นบางกลุ่มเริ่มมี Upside จำกัด : ปัจจุบันเรามองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยถูกขับเคลื่อนบนสภาพคล่องเป็นส่วนใหญ่ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความน่าสนใจในสินทรัพย์หลักอย่างพันธบัตรเริ่มมีความน่าสนใจลดลง ภายหลัง Trend ของโลกกำลังเปลี่ยนจาก QE (Quantitative Easing)  เป็น QT (Quantitative Tightening) หรือหมายถึงช่วงของการทยอยปรับลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรของหลายๆ ธนาคารกลางของโลกและเตรียมพร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ย นำโดย FED , ECB และ BOJ ซึ่งเราคาดปี 2561 จะเป็นช่วงสุดท้ายที่ ECB ทำ QE (วงเงิน 3.0 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน) ก่อนพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยในช่วง 1Q62 ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายเป็น QT ครั้งนี้ในระยะสั้น ทำให้ความน่าสนใจ หรือ อุปสงค์การซื้อของพันธบัตรลดลง ส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกจากพันธบัตร ไปลงทุนยังสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ทองคำและตลาดหุ้น ซึ่งถือเป็น Liquidity driven ที่ควรให้ความสนใจ

Investment theme:  คงคำแนะนำ Let profit run ตราบใดที่ SET ยังสามารถเลี้ยงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย  5 วัน ได้  โดยเราแนะแบ่งเงินส่วนหนึ่งเข้ามายังกลุ่มปันผลเช่น PTTGC, LH, SF, TISCO  และทยอยสะสมหุ้นขนาดกลางอย่าง CKP,  MACO

Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ธนาคารกลางเวียดนามหั่นดอกเบี้ย OMO (Open market Operation) ครั้งแรกในรอบ 4 ปี ลดลงเหลือ 4.75%  / สถานะการการเมืองในเยอรมันเริ่มผ่อนคลายภายหลัง พรรคร่วมรัฐบาล (SPD) เริ่มมีการพูดคุยกับ Merkel จัดตั้งรัฐบาลผสม / Dollar Index อ่อนค่าต่อเนื่องต่ำสุดในรอบ 3 ปี ที่ 90.47 / Brent ปรับตัวทะลุ 70 เหรียญ / บาร์เรล

• บทวิเคราะห์วันนี้ IVL

Stock pick : IVL
IVL : แนะเก็งกำไร ปรับเพิ่มราคาเหมาะสม 70.0 บาท/หุ้น

• คาดกำไรดำเนินงาน 4Q60 ที่ 4,141ล้านบาท (+88%YoY , -3%QoQ) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการหยุดซ่อมบำรุงโรง PX ที่สหรัฐ , PTA ที่แคนาดา อย่างไรก็ตามคาดอาจมีการรับรู้การกลับรายการภาษี Deffered Tax Liability ประมาณ 80 ล้านเหรียญ ส่งผลให้คาดกำไรสุทธิเติบโตสูงกว่า 148 %YoY, +109%QoQ ที่ 7,352 ล้านบาท 
• เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2560/61 ขึ้น 39.3% และ 26.4% เป็น 18,334 และ 20,695 ล้านบาท เป็นผลจากการปรับอัตราภาษีจ่าย (Effective tax rate) ลงเป็น 17% จาก 21% หลังสหรัฐปรับลดปรับฐานภาษีนิติบุคคลลง ซึ่งทำให้ใน 4Q60 มีรายการพิเศษจากการกลับรายการภาษีรอตัดบัญชี 80 ล้านเหรียญ รวมถึงปรับมาร์จิ้น (EBITDA/ton) ขึ้น 6.5-13.6% เป็น 114 และ 117 เหรียญต่อตัน สะท้อนภาวะอุปทานตึงตัว
• IVL ยังคงเป้า M&A เพื่อต่อยอดการเติบโต ซึ่งถือเป็น Upside risk เราปรับเป้าราคาเหมาะสมเพิ่มเป็น  70.0 บาท/หุ้น อิงค่าเฉลี่ย +2SD

Trading idea – –  เก็งกำไร PTTEP (105.00-120.00 บาท) / Let profit run SUN (6.70-7.90 บาท) /

Technical View

  เปิด Gap ทะลุแนวต้านแล้วแกว่งตัวขึ้นต่อ : ดัชนีเปิดโดดทะลุโซนแนวต้านที่ 1813-1815  แม้ช่วงท้ายตลาดจะอ่อนตัวลงมาที่ Low ของวันที่ 1819 แต่ได้มีแรงซื้อกลับทันที ภาพระยะสั้นหากพิจารณาจากกราฟ 120 นาที มองว่าหาดัชนีไม่หลุดแนว 1813-1815 จะยังคอนเฟิร์มการ Break Out ในรอบนี้ คาดยังคงแกว่งตัวขึ้นในกรอบ Uptrend Channel มองแนวต้านภายในวันที่ 1830 และ 1840 ตามลำดับ จังหวะอ่อนตัวมองเป็นโอกาสสะสมตามแนวรับ กลยุทธ์การลงทุน 1) ลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1815-1840, ลงทุนระยะกลางหากไม่หลุด 1810 ยังแนะนำถือหุ้นต่อ  2) Trading ในกรอบ 1815-1840
  แนวรับ : 1819, 1815 แนวต้าน : 1830, 1840

Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 17 ม.ค. ยุโรปรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ และจีนรายงานตัวเลข GDP และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม / Bond yield สหรัฐเริ่มดีดตัว
ปัจจัยในประเทศ : จับตาราคาพืชผลเกษตร (ข้าว, ยางพารา, ปาล์ม) / การรายงานงบการเงินของกลุ่มธนาคารในสัปดาห์นี้ 
หุ้นเทคนิค:
AOT (B 70.50-71.00, Tp 73.00//74.00, Cut 69.00)
IVL (B 58.00, Tp 62.00, Cut 57.50)