|
|
|
|
|
|
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings and Laggard Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ตามคาดแต่กรอบการเคลื่อนไหวถือว่าค่อนข้างกว้าง โดยยังคงมีแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร รวมถึงกลุ่มรับเหมาฯในช่วงท้ายตลาด อย่างไรก็ตามตลาดยังเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้นและทำให้ดัชนีปิดทรงตัวในที่สุด โดยส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนรายย่อยที่ขายสุทธิในตลาดหุ้น 3,649 ลบ. ขณะที่สถาบันในประเทศซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 3,510 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Down วันนี้จาก Sentiment ที่ค่อนข้างเป็นลบหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯพลิกมาปิดลบจากระหว่างวันที่บวกกว่า 1% เนื่องจากต้องติดตามเส้นตายผ่านงบประมาณเผื่อเลี่ยง Government Shutdown ศุกร์นี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบพักตัวลงระยะสั้นน่าจะส่งผลให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานหลังปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวัน ขณะที่กลุ่มธนาคารจะประกาศผลประกอบการอีกครั้งในช่วง 17-19 ม.ค.นี้ ซึ่งเรามองมีโอกาสที่จะถูก Sell On Fact หากไม่มีอะไรเซอร์ไพรซ์ เรามองว่ามีโอกาสเกิด Sector Rotation ไปยังกลุ่มที่ Laggard เช่น กลุ่มอสังหาฯ รวมถึงแรงเก็งกำไรในหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ 4Q17 แข็งแกร่ง
กลยุทธ์ : เก็งกำไรกลุ่ม/หุ้นที่ Laggard และคาดกำไร 4Q17 แข็งแกร่ง//ทยอยซื้อหุ้นใหญ่คืนในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, CPN, ORI, RSP, TKN
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$465ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$308ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไทย US$17ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางพลิกไหลออกจากภูมิภาคหลัง ECB ส่งสัญญาณอาจยุติโครงการ QE ในเดือนก.ย.นี้ เนื่องจากเศรษฐกิจยุโรปที่แข็งแกร่งขึ้น
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> CPN <<
- ปี 2018 จะเป็นปีที่กำไรโตเร่งตัวที่สุดในรอบ 5 ปีด้วยอัตรา 23% จากศูนย์การค้าที่ทยอยเปิดหลังปิดปรับปรุงในปีก่อน ศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่งที่เปิดในปีที่ผ่านมา และอีก 2 แห่งเป็นอย่างน้อยที่จะเปิดในปีนี้ รวมถึงรายได้จากคอนโด Escent ที่จะเริ่มรับรู้เป็นปีแรก
- กำไร 4Q17 ยังถูกกระทบจากการปิดปรับปรุงเซ็นทรัลเวิลด์ เราคาด -8.5% Q-Q, +2.4% Y-Y แต่ศักยภาพในระยะยาวมั่นคง
- ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PE 30.6 เท่า, PEG 1.3 เท่า และ EV/EBITDA 21.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม Modern trade เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 93 บาท (DCF) ยังไม่รวมโครงการร่วมทุนกับ DTC ที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจในอนาคต
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) กลุ่มน้ำตาลและเครื่องดื่ม ได้ประโยชน์จากลอยตัวน้ำตาล โดย ม.44 เพื่อเร่งรัดการลอยตัวราคาน้ำตาลมีผลทันทีตั้งแต่ 15 ม.ค. 18 เรามองบวกต่อโรงงานน้ำตาลเพราะได้รับเงินสุทธิสูงขึ้นจากเดิม และไม่ถูกกำหนดโควต้าขายน้ำตาลในประเทศ รวมถึงมีค่าใช้จ่ายสต็อกน้ำตาลเพื่อขายในประเทศน้อยลง ขณะที่ ราคาน้ำตาลในตลาดโลกมีแนวโน้มเข้าสู่จุดสมดุลอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม เราแนะนำหุ้นกลุ่มน้ำตาล (KSL KTIS KBS BRR) เพียงเก็งกำไร ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มได้ประโยชน์จากราคาน้ำตาลที่ลงเหลือ 17-18 บาท/ก.ก. จากเดิม 20 บาท/ก.ก. แนะนำซื้อ TACC (TP 7.7 บาท) MALEE (TP 45 บาท) และ SAPPE (TP 38 บาท)
(+) KTC กำไร 4Q17 สูงกว่าที่คาดที่ 939 ลบ. +11% Q-Q, +47% Y-Y จากรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียมที่ทำได้ดีกว่าคาด ส่วนสินเชื่อเติบโตตามฤดูกาลแต่ดีกว่าที่คาดไว้ ทำให้สินเชื่อทั้งปี +7% YTD ขณะที่ คุณภาพสินทรัพย์ยังดีมาก เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2018 ขึ้น 14% เป็น 3.58 พันลบ. +8.4% Y-Y จากฐานสินเชื่อที่สูงกว่าคาดการณ์เดิม, Loan yield และรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าคาดการณ์เดิม ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 208 บาท แนะนำซื้อเก็งกำไร
(+) PLANB คาดกำไร 4Q17 ลดลง 30.4% Q-Q จากผลกระทบงานพระราชพิธีในช่วง ต.ค. 17 แต่ยังโตสูง 79.9% Y-Y จากฐานต่ำใน 4Q16 ที่ได้รับผลกระทบนานกว่า หากคาดการณ์ของเราเป็นจริง จะทำให้ประมาณการทั้งปีเดิมมี Downside เล็กน้อย แต่ยังเป็นกำไรโตสูง 36% Y-Y และดีต่อเนื่องในปี 2018 ตามการขยายตัวของตลาดสื่อโฆษณานอกบ้านรวม ราคาหุ้น YTD ยัง Laggard ขณะที่เราคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรของบริษัท และยังมีประเด็นแผนการขยายธุรกิจในประเทศอาเซียนเพิ่มในปีนี้ คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 7.10 บาท
(+) K ด้วยจากความสำเร็จในการจัดงานมอเตอร์เอกซ์โป และงานตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางที่เร่งปิดได้ทันในช่วงสิ้นปี ทำให้เเราคาด 4Q17 จะพลิกมามีกำไรสุทธิ 45 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ทั้งปี 2017 มีแนวโน้มขาดทุนน้อยกว่าคาดการณ์เดิมที่ -55 ล้านบาท ส่วนปี 2018 คาดพลิกมามีกำไรสุทธิ 57 ล้านบาท จากงานตกแต่ง Shop Brand ซึ่งเป็นงานถนัดของ K ที่จะกลับมาขยายตัว ตามห้างเปิดใหม่ที่คาดว่ามีไม่น้อยกว่า 5 แห่ง และโครงการ Mixed-use ขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะเปิด 3 แห่ง ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PE2018 ที่ 20 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดที่ 25 เท่า และต่ำกว่า BKD ที่ 22 เท่า แนะนำซื้อในฐานะหุ้น Turnaround ที่การฟื้นตัวของกำไรเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
18ม.ค.
|
- ไทย: ผลประกอบการ 4Q17 ของ BBL, SCB, KTB, BAY, TMB, TCAP
|
19ม.ค.
|
- ไทย: ผลประกอบการ 4Q17 ของ KBANK, KKP
- สหรัฐฯ: การขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ
|
21 ม.ค.
|
- ประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกโอเปก
|
23 ม.ค.
|
- ญี่ปุ่น: ประชุม BOJคาดคงดอกเบี้ยที่ -0.10%
|
25 ม.ค.
|
- ยูโรโซน: ประชุม ECBคาดคงดอกเบี้ยที่ 0.00%
|
26 ม.ค.
|
- สหรัฐฯ: 4Q17 GDP
|
- (-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบแม้ระหว่างวันจะปรับตัวพุ่งขึ้นทะลุ 26,000 จุด โดยมีความกังวลต่อความเสี่ยงที่จะเกิด Government Shutdown
- (0) ตลาดหุ้นยุโรปปิดผสมโดยถูกกดดันจากราคาสินค้า Commodity ที่ปรับตัวลง
- (0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้แกว่งตัวในแดนลบจาก Sentiment การลงทุนที่ไม่สดใสหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯพลิกมาปิดลบ
- (0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวออกข้างหลังจากหลุดต่ำกว่า 32 บาท/ดอลลาร์ ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 31.89-32 บาท/ดอลลาร์
- (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 0.57 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 63.73 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีแรงขายทำกำไรหลังจากที่พุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันก่อนหน้า รวมถึงจับตาดูตัวเลขสต๊อกน้ำมันและการผลิตน้ำมันรอบสัปดาห์จาก EIA
- ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 2.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,337.10 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า
|
บันทึกโดย : วันที่ :
17 ม.ค. 2561 เวลา : 10:35:58
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น