“Selective Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway” ต้าน 1830/1834จุด รับ 1813/1804จุด Trump จะยกเลิกโครงการคุ้มครองผู้อพยพวัยเยาว์ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐ (DACA) แต่ผู้พิพากษาศาลรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า การกระทำนั้นผิดต่อหลักกฎหมาย ซึ่งความเห็นที่ขัดแย้งกัน ส่งผลให้ตลาดกังวลต่อการเจรจาเพดานหนี้ภายใน19มค.นี้อาจไม่สำเร็จ กดดันบรรยากาศการลงทุนโดยรวม แต่แนวโน้มในประเทศยังสดใส โดยครม.เห็นชอบเพิ่มงบกลางปี1.5แสนลบ.กระตุ้นฐานราก และวันนี้ติดตามการประชุมกระทรวงแรงงานในการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ส่วนธีมการลงทุนแนะนำ Theme “Selective Play” : PSTC, PM, TOA
Nomura : Key Factors
- (-) US: ปธน.ทรัมป์จะยกเลิกโครงการคุ้มครองผู้อพยพวัยเยาว์ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐ (DACA) แต่การยกเลิกโครงการ DACA นั้นผิดต่อหลักกฎหมาย ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าการเจรจาเพดานหนี้ภายใน 19 มค.นี้จะไม่สำเร็จ กดดันบรรยากาศการลงทุนโดยรวม
- (+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -0.89% สู่ $63.73/bbl / BRT -1.58% สู่ $69.15/bbl
- (+) TH: ครม.เห็นชอบจัดทำงบกลางปีพิเศษเพิ่ม 1.5 แสนลบ. กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
- (*) TH: วันนี้ติดตามการประชุมกระทรวงแรงงานในการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำขึ้น5บาท
- (*) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น 526ลบ,Short Future -10,381สัญญา,ซื้อBond +10,790
Nomura Daily Top Picks: PSTC, PM, TOA
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway” แนวต้าน 1830/1834 จุด แนวรับ 1813/1804จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่สหรัฐอาจต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาล (Government Shutdown) จากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ หลังปธน.ทรัมป์จะยกเลิกโครงการคุ้มครองผู้อพยพวัยเยาว์ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐ (DACA) ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มในสมัยรัฐบาลอดีตปธน.บารัค โอบามา ซึ่งทางด้านผู้พิพากษาศาลรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า การยกเลิกโครงการ DACA นั้นผิดต่อหลักกฎหมาย ซึ่งความเห็นที่ขัดแย้งกัน ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าการเจรจาเพดานหนี้ภายใน 19 มค.นี้จะไม่สำเร็จ กดดันบรรยากาศการลงทุนโดยรวม แต่อย่างไรก็ดี ปัจจัยในประเทศยังคงมีแนวโน้มเชิงบวก โดยครม.เห็นชอบจัดทำงบกลางปีพิเศษเพิ่ม 1.5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการส่งเสริมภาคเกษตร โครงการประชาคม และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยวันนี้ติดตามการประชุมกระทรวงแรงงานในการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ โดยคาดจะปรับเพิ่มขึ้น 5 บาท คาดกระตุ้นการบริโภคฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุนเศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดีตามเป้า
Asset allocation : ถือหุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : กลยุทธ์กลุ่ม Big cap เน้น STEC, CK, BBL, KBANK, PTTEP, IVL, IRPC. HMPRO ผสาน 9 Theme เด่น
ครม. มีมติยืดการสอบสัญชาติจากสิ้นไตรมาส 1 ไปเป็นสิ้นไตรมาส 2 เป็นบวกต่อรับเหมา รวมถึงความคืบหน้าของ EEC หนุน เม็ดเงิน Rotation มายังหุ้นอิงการลงทุนเด่นต่อเนื่อง วันนี้จับตา CK, STEC, TOA, TASCO, HMPRO ผสาน SPALI, SIRI, SC, ANAN
Global Play : เน้น ปิโตรเลียมขั้นต้น น้ำมันดิบ BRENT ยืน 70เหรียญฯ หนุน PTTEP, PTT, PTTGC และปิโตรเคมี ที่คาดกำไรดี IVL, IRPC
ครม. อนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเฟส2 : HMPRO, GLOBAL, ROBINS
Dividend 2H17 Play หุ้นที่คาดว่าจะจ่ายเงินปันผล 2H17F สูงกว่า 3.0% และ พื้นฐานดี และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตดี แนะนำซื้อก่อนขึ้น XD 2เดือน มักให้ผลตอบแทนเด่น 5.3-9.6% โดย Big Cap High Yield เลือก KKP, TISCO, SC, IRPC และ Mid-Small Cap High Yield แนะนำ NYT, BLAND, PM
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งขึ้น+นโยบายกระตุ้นฐานราก : HMPRO, FN, PM, ROBINS
Consensus Upgrade: GPSC, CPALL
Jan 2018 Top Picks : TOA, CK, STEC, FN, PSTC, PM
2018 Top picks : CK STEC HMPRO TOA KBANK AOT MONO FN PTTEP IRPC
CNS Analyst Update : TOA(TP40) คาดกำไร 4Q17F เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น +32% q-q หลังต้นทุน Titanium dioxide (TD) พีคไปแล้วใน 2Q17
Investment Theme:
1H18F : Domestic - Infrastructure Related Play : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK, AOT, MONO, PTTEP, IRPC, FN
1) Investment Related : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK
2) Tourism & Consumer : AOT, MONO, FN
3) Global Play : PTTEP, IRPC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
PSTC (TP 1.27*): Support: 0.94/0.91 Resistant: 1.0/1.05
- Theme: Earnings Play
- Earnings Outlook: คาดกำไรสุทธิ 4Q17F ที่ 6.24 ลบ. พลิกเป็นกำไร y-y (4Q16 ขาดทุน -24 ลบ.) แต่ลดลง -49% q-q เป็นผลกระทบ One-time จากค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาทางการเงิน ที่เข้าซื้อบริษัท BIGGAS และค่าใช้จ่ายเพิ่มทุน PP จำนวน 2 พันล้านหุ้น ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา คาดค่าใข้จ่ายรวมราว -8 ลบ. ในขณะที่ ยังคงประมาณการกำไรสุทธิ 2018F เติบโตแตะ 199.7 ลบ. เพิ่มขึ้นกว่า +285% y-y
- Valuation: มูลค่าพื้นฐาน2018F ที่ 1.27 บาท ยังไม่รวมมูลค่าพื้นฐานในปี 2018F-20F เข้าไว้ในราคาเป้าหมาย คงรอความชัดเจนของโครงการอีกครั้งในช่วงถัดไป
- Catalyst: คาดกำไรสุทธิ 4Q17F ที่ 6.24 ลบ. พลิกเป็นกำไร y-y (4Q16 ขาดทุน -24 ลบ.) แต่ลดลง -49% q-q จากมีค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาการเงินราว 8 ลบ. ในขณะที่ผลดำเนินงานปกติถือว่าทำได้ในระดับที่ดี พร้อมกับ เร่งตัวอีกครั้งใน 1Q18F จากเริ่มรับรู้รายได้ BIGGAS เต็มไตรมาส
PM (TP 19.9*): Support: 13.0/12.7 Resistant: 14.0/14.4
- Theme: Earnings Play
- Earnings Outlook: ธุรกิจก้าวมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ คือ การนำ Taro บุกต่างประเทศ (เกาหลี ลาว กัมพูชา เวียดนาม จีน)ซึ่งจะทยอยชัดเจนปลาย 4Q17F และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เต็มที่เริ่ม 2018F หนุนกำไร 3 ปีนี้ จะเข้าสู่ช่วงเติบโตรอบใหญ่เฉลี่ย CAGR 22% ต่อปี ขณะที่ ระยะสั้น 4Q17F คาดกำไรปกติ จะเป็นจุดสูงสุดของปี
- Valuation: ราคาหุ้นปรับตัวลงมา มองเป็นจังหวะทยอยสะสมเพิ่ม รอความคืบหน้าปัจจัยบวกในช่วง 1Q18F จากภาพระยะยาวของบริษัทจะเปลี่ยนจาก Div play เป็น Growth stock + high div โดย Div yield 5.5% ช่วยจำกัด Downside ราคาหุ้น โดยมี PER ปี 2018F เพียง 15x เท่า ซื้อขายถูกกว่า TKN กว่า -50% PER18F ของ TKN ที่ซื้อขายอยู่ที่ 30x
- Catalyst: คาดยอดส่งออกใน 4Q17F ของ TARO ไป 4 ประเทศหลัก (เกาหลี เวียดนาม ลาว กัมพูชา) ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก 3Q17 ที่ยอดส่งออก 17 ลบ. เป็น Sentiment เชิงบวกต่อผลประกอบการโดยรวม และเพิ่มความมั่นใจต่อการเปิดตลาดต่างประเทศ
TOA (TP 40*): Support: 32.0/31.0 Resistant: 33.0/34.5
- Theme: Investment Related
- Earnings Outlook: เป็นผู้นำอุตสาหกรรมสีในไทยด้วย Market share กว่า 48% และมีการเปิดตลาดต่างประเทศมานาน (CLMV + Indonesia + Malay) จะเติบโตไปตาม การเพิ่มจำนวนร้านค้าและเพิ่มสินค้า High margin โดยคาดกำไร 2018F จะกลับมาโตแรง 34% จากการปรับราคาครั้งแรกรอบ 3 ปี ราว 4% และจากการเพิ่มกำลังการผลิต 16% ใน 2H18F (อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว) โดยระยะสั้นคาดกำไร 4Q17F 464 ลบ. (+32% q-q, -12% y-y) ซึ่งเห็นการฟื้นตัวของรายได้ y-y ครั้งแรกในรอบปี
- Valuation: เป็นอุตสาหกรรมที่ดี Margin สูง, ลงทุนต่ำ, ROE สูง 24% จึงมี Premium กว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างทั่วไป โดยมี 18F PER 28.7x แต่ยังต่ำกว่าผู้ประกอบการในต่างประเทศเล็กน้อย ที่ซื้อขายเฉลี่ยสูง 31.5x
- Catalyst: อานิสงค์ Investment Cycle รอบใหญ่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ + ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า + ประกอบกับ ตลาดต่างประเทศมีขนาดใหญ่กว่าไทยถึง 3 เท่าตัวรายได้ ช่วยผลักดัน Growth ต่อผลประกอบการในระยะกลาง-ยาวสูง
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
ข่าวเด่น