ฟื้นตัวช่วงสั้นคาดเห็นการเปลี่ยนกลุ่มผลักดัน ยังคงระมัดระวังความผันผวนรายกลุ่ม
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับขึ้นไปทำ New high หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" ซึ่งระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงขยายได้ดีในช่วงที่ผ่านมา และเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่สดใสในปี 2561 อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ติดแนวต้านที่ 70 เหรียญฯ และค่าเงินสหรัฐฯ ที่พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น อาจสกัดกั้นการฟื้นตัวของกลุ่มที่เกี่ยวกับพลังงานและโภคภัณฑ์ ขณะที่กลุ่มธนาคารอาจมีแรงทำกำไรหลังประกาศผลประกอบการ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวของ SET รอบนี้ยังจำกัดอยู่ในกรอบ 1830-1850 และน่าเป็นการผลักหุ้นรายตัวในกลุ่มอื่นๆ อาทิ อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก การแพทย์ อาหาร ฟื้นตัวขึ้น /กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาจฟื้นตัว แต่มองเป็นแค่ technical rebound เพื่อขายลดหรือเปลี่ยนตัว/ กลุ่มไฟฟ้า ฟื้นตัวหลังลงแรงแต่ยังมองดีดตัวจำกัดที่ high เดิม // ประเด็นเก็งกำไรวันนี้ 1) การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ บวกต่อหุ้นค้าปลีกและบริโภค อาทิ CPALL, ROBINS, MAKRO, TK, COM7 2) การลอยตัวน้ำตาล ไม่กระทบต่อหุ้นน้ำตาล ขณะที่ส่งผลดีเล็กน้อยต่อหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม ICHI, SAPPE 3) ระวังหุ้นเหล็กหลายตัวอาจมีผลประกอบการไตรมาส 4/60 ที่อ่อนแอ
Investment Theme เน้น selective buy 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร BANPU PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) หุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ และราคายังมี upside เชิงพื้นฐานที่น่าสนใจ เช่น SCC, BANPU, ROBINS, BJC*, ERW, MAJOR, STEC, CK, BCH, BDMS, PSH, AP, TK, AMANAH 3) EEC และการลงทุนโครงสร้างฟื้นฐาน AMATA*, STEC, EASTW*
ภาพรวมกลยุทธ์: การปรับขึ้นต่อนักลงทุนควรแบ่งขายทำกำไร และตั้งจุดขายรักษากำไร (trailing stop) ในหุ้นที่มี และรอจุดซื้อรายตัวที่ดีอีกครั้ง นักเก็งกำไร เน้นเก็งกำไรเชิงตั้งรับและลดขนาดของการเก็งกำไร // หุ้นแนะนำ MONO*, MAKRO*, COM7*
แนวรับ 1817 / แนวต้าน : 1830-1840 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันขยับขึ้นขานรับคาดการณ์สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลดลง / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,164 จุด (-4.67%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 106.55 เหรียญฯต่อตัน (+0.09%) 
Beige Book ชี้เศรษฐกิจ เงินเฟ้อสหรัฐขยายตัว ค่าแรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงขยายตัวเล็กน้อยจนถึงปานกลางในช่วงปลายเดือนพ.ย.2560 จนถึงต้นปี 2561 ขณะที่ค่าแรงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเกินคาด - การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.9% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรก และเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557 
อนุมัติปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำ มีผล 1 เม.ย.61 - การพิจารณาเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำปี 2561 ได้ข้อสรุปปรับขึ้นอัตราค่าจ้างทั่วประเทศ แบ่งเป็น 7 ระดับ โดยมีอัตราการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 5-22 บาท อัตราค่าเฉลี่ยรวมอยู่ 315.97 บาท โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป
ลอยตัวราคาอ้อย-น้ำตาล ปล่อยให้เป็นกลไลตามตลาด - รมว.อุตสาหกรรมระบุ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2560 รัฐบาลออกคำสั่งมาตรา 44 ยกเลิกการอุดหนุนราคาอ้อยและน้ำตาลทรายโดยตรง ยกเลิกการกำหนดโควตา น้ำตาลทราย ยกเลิกการกำหนดราคาน้ำตาลหน้าโรงงาน โดยปล่อยให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด มองเป็นบวกจิตวิทยาต่อ SAPPE ICHI TACC
ประเด็นติดตาม: 18 ม.ค. CN – รายงาน GDP ไตรมาส 4/60 / 31 ม.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)