Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายเกิด Technical rebound ในกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่าง GULF, GPSC และ BGRIM ในขณะที่ LH ปรับตัวขึ้นเด่น ภายหลังผู้บริหารแถลงแผนการลงทุนในช่วงเช้าที่ผ่านมา ในขณะที่ KTC และ AEONTS ปรับตัวขึ้นเด่น จากการประกาศงบดีกว่าคาด ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,828 จุด   (+7.05 จุด) ด้วย มูลค่าการซื้อขายสูงกว่า 7.5 หมื่นล้านบาท  ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 7.6 หมื่นล้านบาท
  นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้งที่ 2,221 ล้านบาท พร้อมกลับมาเปิดสถานะ Long Short SET50 index future ที่ 6,059 สัญญา

Investment theme
  จับตาการรายงานงบกลุ่มธนาคารวันนี้ / ก.แรงงานเคาะปรับขึ้นค่าแรงสูงกว่าตลาดคาด  : ในเย็นวันนี้ แนะนักลงทุนจับตาการประกาศงบการเงินประจำปีของธนาคารใหญ่นำโดย SCB, BBL, KTB และ KBANK (เช้าวันศุกร์) ซึ่งหากดูจากการรายงานของผลประกอบการของ KTC, AEONTS ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาดแล้ว (เป็นผลจาก Loan growth(%) ที่ดีกว่าคาด และผลกระทบจากการลดดอกเบี้ยบัตรเครดิตจาก 20% เหลือ 18% ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา น้อยกว่าคาด) ซึ่งสะท้อนกำลังซื้อของกลุ่มคนชั้นกลางที่ฟื้นตัวดี อย่างไรก็ตามอาจจะส่งผลต่อกลุ่มธนาคารใหญ่เพียงเล็กน้อย เนื่องจากธนาคารกลุ่มบัตรเดรดิคอย่าง KBANK,SCB และ BAY มีสัดส่วนเพียง 3-5% ของกำไรจากการดำเนินงาน ส่งผลให้เราคาด 4Q60 ของกลุ่ม (9 ธนาคาร) รวมประมาณ 4.63 หมื่นล้านบาท (-8%YoY , -1%QoQ)  และเราแนะนำติดตามการแถลงแผนกลยุทธ์ในปี 2561 ของผู้บริหารแนะดู Loan Growth (%) และ Credit cost (bps) เพื่อประเมินสถานกาณ์กลุ่มธนาคารในปีนี้
  Investment theme:  คงคำแนะนำ Let profit run ตราบใดที่ SET ยังสามารถเลี้ยงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย  5 วัน ได้  โดยเราแนะแบ่งเงินส่วนหนึ่งเข้ามายังกลุ่มปันผลเช่น PTTGC, LH, SF, TISCO

Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา – สหรัฐแจ้ง UN ระงับความช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ / สหรัฐรายงานตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ธ.ค. ที่ 0.9% /กระทรวงแรงงานเห็นชอบปัรบขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-22 บาท สูงสุด 330 บาท มีผล 1 เม.ย. นี้ 
บทวิเคราะห์วันนี้ LH

Stock pick : CPALL
CPALL : แนะเก็งกำไร (Trading range 81.0-84.0 บาท )
  เมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงแรงงานได้ข้อสรุปปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 5-22 บาท (สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 3-15 บาท ) โดยปรับขึ้นจากเดิม 305 - 310บาท เป็นเฉลี่ยประมาณ 316 บาท/วัน ซึ่งรอครม.อนุมัติในสัปดาห์หน้า และคาดมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย. 
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มค้าปลีกจากประเด็นดังกล่าวและมองว่าบริษัทฯจะได้ประโยชน์จากจำนวนสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศสูงกว่า 10,200 สาขา โดยคาดผลบวกจากกำลังซื้อของคนทั่วประเทศจะมากกกว่าค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 1-2% 
  คาดกำไร 4Q60 คาดจะเติบโตโดดเด่น เพิ่มขึ้นราว 20% YoY เป็นผลมาจาก SSSG ฟื้นตัวมาเป็น 4% และฟื้นตัวเด่นต่อใน 1Q61 ส่งผลให้เราคาดกำไรปี 2561 จะเติบโตราว 15% ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท คงคำแนะนำเก็งกำไรในกรอบราคา 81.0-84.0 บาท
  Trading idea – – ทยอยสะสมกลุ่มอสังหา (AP, LPN) และกลุ่ม Out of home Media (MACO)

Technical View

  เปิดต่ำ แต่ปิดสูง: ดัชนีเปิดโดดลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานที่พักตัวลงตามราคาน้ำมันโลก แต่ยังคงประคองตัวไม่หลุดแนวรับที่ 1815 จากนั้นในช่วงบ่ายมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ทำให้ดัชนีมีแรงดีดกลับปิดที่ High ของวัน และจ่อ Break โซนแนวต้าน 1830 หากผ่านได้ Upside ด้านบนจะเปิดมากขึ้น มองแนวต้านถัดไปที่ 1840 และ 1850 ตามลำดับ จังหวะอ่อนตัวมองเป็นโอกาสสะสมตามแนวรับ  กลยุทธ์การลงทุน 1) ลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1822-1840, ลงทุนระยะกลางหากไม่หลุด 1810 ยังแนะนำถือหุ้นต่อ  2) Trading ในกรอบ 1822-1840
  แนวรับ : 1822, 1815 แนวต้าน : 1840, 1850

Eyes on
  ปัจจัยต่างประเทศ : 17 ม.ค. ยุโรปรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ และจีนรายงานตัวเลข GDP และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม / 
  ปัจจัยในประเทศ : จับตาราคาพืชผลเกษตร (ข้าว, ยางพารา, ปาล์ม) / การรายงานงบการเงินของกลุ่มธนาคารในสัปดาห์นี้ 

หุ้นเทคนิค:
  PTT (B 474.00-478.00, Tp 494.00//500.00, Cut 470.00)
  CPALL (B 79.00, Tp 82.00, Cut 78.50)