คำแนะนำ
พิจารณาโซน 1,344-1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในการเปิดสถานะขาย ขณะที่การเปิดสถานะซื้อจำเป็นต้องรอการอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับซึ่งจะเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,322 1,315 1,303
แนวต้าน 1,346 1,358 1,365
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลงโดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ที่ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงขยายตัวเล็กน้อยจนถึงปานกลางในช่วงปลายเดือนพ.ย.2017 จนถึงต้นปี 2018 ขณะที่ค่าแรงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐที่พุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนธ.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.4% ประกอบกับบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งในสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดเป็นปัจจัยหนุนให้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 322.79 จุดและปิดเหนือระดับ 26,000 เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ มุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐของเฟด การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และสินทรัพย์เสี่ยงที่พุ่งขึ้นได้กระตุ้นแรงขายทองคำส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงกว่า 11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, การอนุญาตก่อสร้าง, ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและดัชนีการผลิตเดือนธ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำเกิดแรงขายอ่อนตัวลงหลังจากที่ดีดตัวขึ้นมาใกล้ 1,344-1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านไปได้ ประเมินว่าจะเกิดแรงซื้อดันมาเข้าใกล้ 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
ราคาทองคำมีจุดเสี่ยงเปิดสถานะขายระยะสั้นในบริเวณ1,344-1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากยืน 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาอ่อนตัวลงไปก่อนให้พิจารณาบริเวณ 1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดเปิดสถานะซื้อ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
ข่าวเด่น