Today Selections >> AMATA, MONO, PSH
Stock S R Comment
AMATA 28.00 29.00 ขยายตลาดเพื่อนบ้าน ยึดส่วนแบ่งทางการตลาดนิคม
MONO 4.40 4.54 คาดอัตราการใช้โฆษณาช่องเพิ่มเป็น 65-70% จากปีก่อน 65-66%
PSH 24.60 25.25 สมาคมอสังหาฯ มองโต 5-10% ยอดปฏิเสธกู้ลดเหลือ 25%
UST yield spiked to highest level since 2016
Debt ceiling : ข่าวด่วนเช้าวันนี้ได้แก่การที่สภาผู้แทนฯของสหรัฐฯได้ลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว โดยขั้นตอนต่อไปได้แก่การลงมติของวุฒิสภา ก่อนที่จะถึงเส้นตายในช่วงคืนวันศุกร์ที่ 19 มกราคมนี้ หากผ่านพ้นจนปธน.ทรัมป์สามารถลงนามเป็นกฎหมายได้ จะช่วยให้หน่วยงานราชการของสหรัฐฯรอดพ้นจากการปิดทำการชั่วคราว (Shutdown) ไปจนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้
มุมมองของเรา : ยังคงมีความเสี่ยงอยู่บ้าง เนื่องจากการลงมติในสภาสูงต้องอาศัยคะแนนเสียงถึง 60 เสียง ซึ่งล่าสุดสมาชิกพรรคเดโมแครตส่วนใหญ่รวมถึงสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนแสดงความเห็นว่าจะลงมติคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าว ล่าสุด Reaction ในตลาดดูเหมือนยังไม่ตอบรับเชิงบวกเท่าไหร่นัก โดยเงินดอลลาร์ยังคงทรงตัว และ Bond yield สหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ โดย Bond yield 10 ปีอยู่ที่ 2.63% ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2016 มองการปรับขึ้นของ Yield สหรัฐฯนี้ส่งผลลบในแง่ของ Fund flow เนื่องจากทำให้ระดับ Earning yield gap ของตลาดหุ้นไทยแคบลง และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้หุ้นขนาดใหญ่เริ่มปรับตัว Underperform ได้ เช่นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงานอย่างเช่นที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้
China : จีนรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 4/60 เติบโตที่ระดับ 6.8% YoY และทำให้ตัวเลขทั้งปี 2560 เติบโตที่ 6.9% ดีกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย มองเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นจีนโดยตรง รวมไปถึงสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกโลหะอุตสาหกรรม
Contractor : ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาปรับตัวลงแรงวานนี้จากปัจจัยการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นสำคัญ มองการปรับตัวลงมาเป็นการสะท้อนปัจจัยดังกล่าวไปบ้างแล้ว ในกลุ่มนี้เรายังคงแนะนำ CK เป็น Top pick และแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 32 บาท จุดเด่นคือการกระจายความเสี่ยง เนื่องจากมีการลงทุนยังต่างประเทศ และเป็นบริษัทในกลุ่มรับเหมาแห่งเดียวที่มีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศครบวงจร โดยล่าสุดยังคงพบสัญญาณเชิงบวกในตราสาร SSF ที่ยังคงมีระดับ Open interest ปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุน : SET Index ยังคงไม่ถูกสนับสนุนด้วย Valuation เนื่องจาก EPS ของดัชนียังไม่ถูกปรับเพิ่มขึ้นแม้แต่น้อย มองว่าการลงทุนในภาวะปัจจุบันยังคงจำเป็นที่จะต้อง Selective ต่อไป ซึ่งกลุ่มที่เรายังคงแนะนำได้แก่
1) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีเงินปันผลในระดับน่าสนใจได้แก่ AP, LH, QH, SIRI
2) กลุ่มสื่อสารที่ได้ประโยชน์จากการลดข้อจำกัดต่างๆของภาครัฐ ได้แก่ ADVANC, TRUE
3) หุ้นพื้นฐานดีที่ปีที่แล้วเป็นหนึ่งใน The most laggards จึงมี Downside ที่จำกัด ได้แก่ CK, TU
4) หุ้นกลุ่ม Small cap ที่เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" ได้แก่ JMT, PRM
5) หุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า, ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง และ Seasonal effect ของค่าการกลั่น ได้แก่ BCP, IRPC, SPRC
6) กลุ่มค้าปลีกที่อาจได้อานิสงส์ในระยะสั้นจากประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีลูกค้าฐานรากเป็นสำคัญ ได้แก่ GLOBAL, ROBINS, SINGER, TNP
แนวรับ 1,806 แนวต้าน 1,844
บทวิเคราะห์วันนี้ :
- PTTEP (ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 125 บาท) ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4 อยู่ที่ 10,604 ล้านบาท
- SCB (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 172 บาท) สำรองหนี้ยังสูง กดดันกำไร 4Q60
- TMB (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.36 บาท) สำรองหนี้ และ Non-NII หนุนกำไร 4Q61
Today's Event :
- TRUBB ลูกหุ้นเข้า 1,003,600,000 หุ้น
ข่าวเด่น