คำแนะนำ
หากราคาสามารถยืนเหนือ 1,327-1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ให้เสี่ยงเปิดสถานะซื้อ โดยตัดขาดทุนหากหลุดโซน 1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พิจารณาการแกว่งตัวของค่าเงินบาทเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,324 1,315 1,303
แนวต้าน 1,344 1,358 1,365
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัว ถึงแม้จะได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าและยังคงเคลื่อนไหวอยู่บริเวณระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางของประเทศชั้นนำของโลกกำลังปรับนโยบายการเงินเข้าสู่สภาวะปกติ (monetary policy normalization) โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างจำกัดเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นวอลสตรีทหลังวุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐชั่วคราว หรือ ชัตดาวน์ โดยทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกส่งไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามต่อไปและจะช่วยให้ยุติการชัตดาวน์ที่ดำเนินมา 3 วันและทำให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการบริหารประเทศจนถึงวันที่ 8 ก.พ. ขณะที่วันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดว่าจะยังคงนโยบายการเงินไม่เปลี่ยนแปลง แต่อาจต้องติดตามว่า BOJ จะส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงการดำเนินโยบายการเงินในอนาคตหรือไม่ สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.จากเฟดริชมอนด์
ปัจจัยทางเทคนิค
แม้ราคาทองคำมีการปรับตัวลดลง แต่ระยะสั้นอาจพยายามดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,344-1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาสู่แนวรับเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
หากสามารถยืนเหนือ 1,327-1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เสี่ยงเปิดสถานะซื้อ โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการเปิดสถานะขายอาจพิจารณาดูบริเวณ 1,344 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านขึ้นไปให้ชะลอการขายไปที่ 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น