สภาวะตลาดวันที่ 24 มกราคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,338.90-1,347.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,200 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,270 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,230 บาท

  (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.36 น. ของวันที่ 24/01/61)

แนวโน้มวันที่ 25 มกราคม 2561
  ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุลร่วงสู่ระดับต่ำกว่า 90.00 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2557 ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดรอบ 5 วัน ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ เพราะธนาคารกลางสำคัญถูกคาดหมายว่าจะยุตินโยบายผ่อนคลายการเงิน ตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งตามปกติแล้วอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ลดลงทำให้ทองคำมีความน่าดึงดูดใจมากขึ้น ทั้งนี้ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมเมื่อสกุลเงินยูโรทะยานขึ้น โดยยูโรได้แรงหนุนจากทัศนะแง่บวกเพิ่มขึ้นที่ว่าเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางยุโรป(ECB) ส่งสัญญาณการยุติความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ประกอบกับข้อมูลจากคณะกรรมาธิการยุโรป(EC) แสดงเมื่อวานนี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนดีดตัวขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นแรงหนุนยูโร รวมทั้งความสำเร็จในการเจรจาตั้งรัฐบาลผสมในเยอรมนีและการว่างงานในยูโรโซนอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี ทั้งนี้ราคาทองคำกับสกุลเงินยูโรส่วนใหญ่จะมีการเคลื่อนไหวเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ขณะที่นักลงทุนยังจับตาการประชุมของ ECB ในวันพฤหัสบดีเพื่อดูแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงิน อย่างไรก็ตามราคาทองคำในประเทศได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทต่อดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ทดสอบระดับ 31.65 ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 42 เดือน ด้านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่าธปท.จะไม่เข้าแทรกแซงเงินบาทเพื่อความได้เปรียบทางการค้า แต่จะดำเนินการเพียงเพื่อบรรเทาความเคลื่อนไหวที่รุนแรงเกินไป  แม้ว่าในระยะสั้นราคาทองคำเคลื่อนไหวในทิศทางที่ค่อยๆขยับขึ้น หากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,358  ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ มีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ บริเวณ 1,338-1,331 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวต้านแรกไปได้ ราคาทองคำจะเผชิญแนวต้านถัดไปที่ 1,365 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,338-1,331 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่อาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,338-1,331 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์

ทองคำแท่ง (96.50%) 
แนวรับ            1,331 (19,900บาท) 1,324 (19,800บาท)        1,315 (19,650บาท)
แนวต้าน          1,358 (20,350บาท)   1,365 (20,450บาท)   1,376 (20,600บาท)             
  
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ            1,331 (20,040บาท) 1,324 (19,930บาท)        1,315 (19,800บาท)
แนวต้าน          1,358 (20,450บาท)             1,365 (20,560บาท)   1,376 (20,720บาท)