กลยุทธ์วันนี้ >> Energy and Earnings Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ได้เกือบตลอดทั้งวันตามคาดก่อนที่ชั่วโมงซื้อขายสุดท้ายจะแกว่งไต่ระดับต่อเนื่องและปิดบวกได้ 7.18 จุด ณ สิ้นวันโดยยังคงมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่บางตัวซึ่งหนุนดัชนี สถาบันในประเทศยังคงเป็นฝ่ายซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1,766 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิบางๆ 232 ลบ. และยัง Net Long ใน Index Futures อีก 4,061 สัญญา
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะยังแกว่งตัว Sideways Up ได้โดยกลุ่มพลังงานคาดว่ายังคงนำตลาดหลังราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาวันนี้คือการประชุมสนช.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งเรามองว่าหากเลื่อนออกไปเกิน 90 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ตลาดรับรู้ไปก่อนหน้าแล้วอาจเป็นลบต่อความเชื่อมั่นและทำให้ตลาดพักฐาน เรายังเชื่อว่าหุ้นในกลุ่มพลังงานและหุ้นที่มีคาดมีกำไร 4Q17 แข็งแกร่งจะยังสามารถ Outperform ตลาดในระยะนี้
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นที่คาดมีกำไร 4Q17 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, CPN, ORI, RSP, TKN
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$56ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$152ล้าน และไทย US$7ล้าน ขณะที่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$79ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค ตามทิศทางค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> IRPC <<
- IRPC ยังเป็นหุ้นที่เราชอบสุดในกลุ่ม เพราะคาดกำไรโตสูงสุด +32% Y-Y เป็น 1.33 หมื่นลบ. ในปีนี้ โดยได้ประโยชน์เต็มปีจากกำลังการผลิตส่วนขยาย ซึ่งเป็นสินค้า margin สูง และประสิทธิภาพของโรงงานที่ดีขึ้น ทำให้ GIM เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาแต่ค่าการกลั่น
- กำไร 4Q17 มีแนวโน้มดีกว่าคาดเพราะกำไรจากสต็อกน้ำมัน เราคาด 3.96 พันลบ. +22% Q-Q, +134% Y-Y
- เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9 บาท จาก 7.40 บาท โดยปรับ EV/EBITDA ขึ้นจาก 7.5 เท่า เป็น 8.5 เท่าตามความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง มีโอกาสจ่ายปันผลสูงเพราะผ่านยุคการลงทุนขนาดใหญ่ไปแล้ว ปัจจุบันมี PE 11.4 เท่าหรือ PEG เพียง 0.4 ต่ำสุดในกลุ่ม แนะนำซื้อ
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปี อยู่ที่ 31.50 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ แข็งค่า 3% YTD เป็นลบกับกลุ่มส่งออก อิเล็กทรอนิกส์ เกษตร อาหาร ท่องเที่ยว แต่เป็นบวกกับกลุ่มที่มีหนี้ต่างประเทศมาก (TRUE, THAI) และกลุ่มนำเข้าแต่ขายในประเทศทั้งหมด เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้างเช่นเหล็ก ปิโตรเคมี โรงกลั่น สินค้าไอที รวมถึง FTE MGT THMUI
(+) ยอดผลิตรถยนต์ ธ.ค. 17 เพิ่มขึ้นแบบ Y-Y เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน 9% Y-Y อยู่ที่ 157,207 คัน ส่วนยอดผลิต 4Q17 อยู่ที่ 511,079 คัน ส่งผลให้แนวโน้มกำไร 4Q17 ของทั้งกลุ่มยังสดใส เรายังคาดว่างบของ PCSGH จะ outperform กลุ่ม แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 13 บาท
(0) SCC กำไรสุทธิ 4Q17 ที่ทำได้ 12,567 ลบ. (+6.2% Q-Q, +0.7% Y-Y) และทั้งปีที่ 55,041 ลบ. -2% Y-Y เป็นไปตามเราและตลาดคาด ซึ่งเป็นกำไรที่ไม่ดีนักเพราะต้นทุน Naphtha ปรับขึ้นเร็ว แต่ราคาขายปรับขึ้นน้อยกว่า ทำให้ Spread ของ HDPE-Naphtha ลดลง อีกทั้งตลาดปูนซีเมนต์ยังซบเซา มีเพียงบรรจุภัณฑ์ที่ดี แนวโน้มกำไรในปี 2018 คาด -3% Y-Y แต่ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 580 บาท SCC ประกาศจ่ายปันผลงวด 2H17 จ่าย 10.50 บาท/หุ้น (yield 2%) XD 4 เม.ย.
(0) CPF คาดกำไรสุทธิ 4Q17 1.8 พันลบ. (-63% Q-Q, +3.7% Y-Y) หากไม่รวมกำไรขายเงินลงทุน คาดผลการดำเนินงานหลักแย่ถึงขั้นขาดทุน แม้จะส่วนแบ่งกำไรจาก CPALL จะโตต่อเนื่อง แต่ไม่ครอบคลุมผลขาดทุนของธุรกิจหมูทั้งไทยและเวียดนาม ขณะที่ธุรกิจไก่เป็นช่วง Low Season เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2017 ทรงตัว Y-Y และคาดจะกลับมาเติบโตเล็กน้อย 8.5% Y-Y ในปี 2018 แม้เรายังคงราคาเป้าหมาย 32 บาท แต่ระยะสั้น แนวโน้มผลการดำเนินงานหลักยังอ่อนแอต่อเนื่องใน 1Q18 จึงแนะนำเพียงถือ
(+) THMUI แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.10 บาท แม้คาดผลประกอบการ 4Q17 ชะลอตัว แต่ทั้งปี 2017 ยังโตสูง 73% Y-Y และคาดโตแรงต่อเนื่อง 61% Y-Y อยู่ที่ 53 ล้านบาทในปี 2018 จากความต้องการลวดสลิงที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มก่อสร้างและพลังงาน รวมถึงเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เพราะต้นทุน 50-60% นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ แต่ขายในประเทศเกือบทั้งหมด เงินบาทที่แข็งทุก 1% จะเป็นบวกกับกำไรสุทธิ 5% ส่วน Valuation ก็ยังไม่แพง PE2018 อยู่ที่ 13 เท่า PEG 0.4 เท่า และคาด Dividend Yield สูง 4-5% ต่อปี
(+) DRT คาดกำไรปกติ 4Q17 +2% Q-Q, +17% Y-Y จากการขยายสาขาเพิ่มของลูกค้า Modern Trade และการเปิดตัวโครงการใหม่ของลูกค้าโครงการอสังหาฯ ทำให้เราคาดกำไรปกติทั้งปี 2017 +13% Y-Y และ +8% Y-Y ในปีนี้ จากตลาดวัสดุก่อสร้างที่ฟื้นตัว ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเร่งลงทุนเมกะโปรเจคของภาครัฐ ขณะที่ยังมี Upside จากการขายที่ดินเปล่า 36 ไร่ที่ชลบุรี ซึ่งคาดจะบันทึกเป็นกำไรพิเศษราว 100 ลบ. หรือคิดเป็น 0.10 บาท/หุ้น ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะจ่ายปันผลพิเศษ จากเดิมคาด Yield 5-6% ต่อปี คงคำแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 6.60 บาท
(+) CHG คาดกำไรปกติ 4Q17 โต 8.6% Y-Y และส่งผลให้ทั้งปี 2017 โต 3.2% Y-Y ขณะที่ ปี 2018 แม้เราจะปรับลดประมาณการลง 5% แต่คาดยังโตในอัตราเร่ง +11.6% Y-Y ตามทิศทางเศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศที่ดีขึ้น รวมถึงอานิสงส์เชิงบวกจากการเพิ่มเงินประกันสังคมเต็มปี เราปรับลดราคาเหมาะสมลงเหลือ 2.50 บาท อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก สวนทางแนวโน้มกำไรที่กลับเป็นขาขึ้น เราจึงมองเป็นจังหวะเข้าซื้ออีกครั้ง โดยที่ CHG ถือเป็นโรงพยาบาลที่ได้ประโยชน์สูงสุดจาก EEC
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
25 ม.ค.
|
- ยูโรโซน: ประชุม ECB คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.00%
- สหรัฐฯ: ยอดขายบ้านใหม่ (ธ.ค. 17)
|
26 ม.ค.
|
- สหรัฐฯ: 4Q17 GDP คาด 3% จากงวดก่อน 3.2%
|
1 ก.พ
|
- จีน: Caixin PMI ภาคการผลิต (ม.ค. 18)?
- สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (ม.ค. 18) ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ADP (ม.ค. 18)
|
- (0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้ท่ามกลางการซื้อขายที่ค่อนข้างผันผวนหลังกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลง
- (-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนลบหลังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนออกมาค่อนข้างกระจัดกระจาย
- (0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมหลัง Dollar Index ปรับตัวลงค่อนข้างแรงวานนี้ ส่งผลให้ค่าเงินภูมิภาคแข็งค่าเร็ว
- (+) ค่าเงินบาทล่าสุดแข็งค่าขึ้นมาแตะระดับ 31.50 บาท/ดอลลาร์
- (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 65.61 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA รายงานตัวเลขสต๊อน้ำมันดิบปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 10 ตามคาด
- ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. พุ่งขึ้น 19.60 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,356.30 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่อง
ข่าวเด่น