คำแนะนำ
เน้นเก็งกำไรฝั่งซื้อหากราคายังคงยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบ้างส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,342 1,331 1,324
แนวต้าน 1,366 1,376 1,384
ปัจจัยพื้นฐาน
ในระหว่างวันราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่งบริเวณ 1,366.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ อย่างไรก็ตามทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้หลังจากดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นขานรับการให้สัมภาษณ์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อคืนนี้ว่า เขาสนับสนุนการแข็งค่าของดอลลาร์ และเชื่อว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นอีกและกล่าวว่าสื่ออาจตีความคำพูดของนายมนูชินรมว.คลังสหรัฐที่กล่าวก่อนหน้านี้ในเชิงสนับสนุนการอ่อนค่าของดอลลาร์ผิดไป นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานและดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ(LEI)ที่ดีเกินคาดอีกด้วย ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป(ECB) คงนโยบายการเงินตามคาด ส่วนนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวว่า การแข็งค่าของยูโรเป็นต้นเหตุของความไม่แน่นอนซึ่งทำให้ ECB ต้องจับตามองความเคลื่อนไหวของยูโร ประเด็นดังกล่าวหนุนสกุลเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าและกดดันให้วานนี้ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงราว 1% สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยประมาณการครั้งแรกจีดีพีไตรมาส 4/2017 ของสหรัฐและสุนทรพจน์ของปธน.ทรัมป์ในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF)
ปัจจัยทางเทคนิค
วานนี้ราคาแกว่งตัวผันผวนแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อแรงขายต่อสู้กัน ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อ โดยหากยืนเหนือบริเวณ 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ การขยับขึ้นจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,376 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก กรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,331-1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
การเข้าซื้อยังคงเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเข้าซื้อเฉพาะเมื่อตลาดปรับตัวลงมาไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่การขายอาจพิจารณาในโซน 1,366-1,376 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (สถานะขายตัดขาดทุน 1,376 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
ข่าวเด่น