คำแนะนำ
เก็งกำไรระยะสั้นตามกรอบราคา โดยเปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,344-1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้และให้ทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,342 1,331 1,324
แนวต้าน 1,366 1,376 1,384
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.67 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่กลับมาอ่อนค่าอีกครั้งหลังจากฟื้นตัวเพียงแค่ระยะสั้นจากการให้สัมภาษณ์สนับสนุนการแข็งค่าของดอลลาร์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 4/2017 ของสหรัฐที่ขยายตัวเพียง 2.6% โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 3% และต่ำกว่าระดับ 3.2% ในไตรมาส 3 อย่างไรก็ตามราคาทองคำถูกสกัดช่วงบวกไว้ด้วยการพุ่งขึ้นสู่ระดับประวัติการณ์ของดัชนีหุ้นสำคัญของตลาดวอลล์สตรีท โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 223.92 จุดขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งซึ่งการพุ่งขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงกดดันทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงในวันศุกร์ -1.18 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยการใช้จ่ายส่วนบุคคล, รายได้ส่วนบุคคลเดือนธ.ค.และดัชนีค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล(Core PCE) เดือนธ.ค.ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ให้ความสำคัญเพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางดอลลาร์และราคาทองคำ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือแนวรับโซน 1,344-1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้มีแนวโน้มดันขึ้นสู่บริเวณ 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามในโซนดังกล่าวขึ้นไป ต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะออกมา สำหรับวันนี้ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1,376 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
รอจังหวะการเปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,344-1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และตัดขาดทุนหากหลุด 1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมา และสำหรับนักลงทุนที่ถือสถานะซื้ออยู่ แนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,366-1,376 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไป
ข่าวเด่น