|
|
|
|
|
|
Market Summary 26-01-18
Close
|
1,828.88
|
Volume
|
Bt78,535M
|
Change
|
9.59
|
P/E
|
19.86
|
%Change
|
0.53%
|
P/BV
|
2.22
|
หุ้นแนะนำพิเศษ
Analyst Meeting : ORI (ราคาปิด 21.40 ซื้อ Bloomberg Consensus 24.87)
- ปี 61 มีแผนเปิดโครงการใหม่มูลค่า 3 หมื่นลบ. +98% ตั้งเป้ายอดขาย presale 2 หมื่นลบ. +36% เป้ารายได้ 1.5 หมื่นลบ. +67% (มี backlog 80%) โครงการที่จะแล้วเสร็จมีมูลค่า 1.96 หมื่นลบ.+49% การเติบโตเร็วแบบ Inorganic Growth มาจากการควบรวมกิจการกับพราวด์ เรสซิเดนท์ในช่วงครึ่งปีหลังที่สามารถขยายฐานลูกค้าสู่ระดับบนได้ทันที และการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น-โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ (NRED) สัดส่วน 49% ในการพัฒนาคอนโดฯ ทำให้มีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น รวมทั้งการขยายไลน์สินค้าสู่การพัฒนาบ้านเดี่ยว
- กำไร 4Q60 มีแนวโน้มทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาสจากการเริ่มโอนโครงการ Park 24 ซึ่งเป็นโครงการของพราวด์เรสซิเดนท์ โดยโอนได้ 3.2 พันลบ.ดีกว่าเป้าที่ 3 พันลบ.รวมทั้งโครงการของบริษัทเองที่เป็นคอนโดฯและบ้านเดี่ยว และมีกำไรจากการขายหุ้น JV ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 60 ราว 1,756 ลบ. +175% 9M60 มีกำไร 967 ลบ.+202%
- อนาคตรายได้ประจำมีสัดส่วนมากขึ้นจากปัจจุบัน 1% เป็น 5-10% หลังพัฒนาโครงการแล้วเสร็จตามแผน ได้แก่ โครงการโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ย่านทองหล่อและศรีราชา ธุรกิจให้บริการและบริหารอสังหาฯ รวมทั้งการให้เช่าคลังสินค้าที่อยู่ระหว่างศึกษา
Market View : เขียวตามเพื่อนบ้าน
Technical Insight : RS UV
หุ้นแนะนำพิเศษ : ORI
หุ้นมีข่าว : PTTEP ITEL ATP30
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน กลับมาฟื้นตัวต่อเนื่องภายใต้ปัจจัยบวกต่างประเทศ (งบการเงิยบริษัทใน DJIA, ECB คงดอกเบี้ย QE) หนุนหุ้นกลุ่ม ENERG BANK ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,828.88 จุด (+9.59 จุด) Volume 7.85 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +5,373.96 ลบ. TFEX Net +4,840 สัญญา ตราสารหนี้ -2,964.90 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังสหรัฐเผยตัวเลขจีดีพีที่ต่ำกว่าคาดการณ์เล็กน้อย แต่นักลงทุนมองว่ายังแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง
+น้ำมันดิบปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีโดยได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง รวมถึงสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลง
+ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.9% ในเดือนธ.ค. ซึ่งสูงสุดในรอบ 18 เดือน
-สหรัฐเผย GDP ขยายตัว 2.6% ใน Q4/60 ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 3%
-เบเกอร์ ฮิวจ์เผยแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนมากที่สุดในรอบ 4 เดือน โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้น 12 แท่น สู่ระดับ 759 แท่นหลังราคาน้ำมันพุ่งแรง
+/-Fund Flow ต่างชาติพลิกกลับมาซื้อ 5.3 พันลบ. ขณะที่เงินบาทยังแข็งค่าสู่ 31.38 Bath/USD
ภาวะตลาดหุ้นไทยในวันนี้มีปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐเดินหน้าทำนิวไฮและราคาน้ำมันปิดที่เพิ่มขึ้น ส่วนปัจจัยกดดันมาจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แผ่วลง และ fund flow ผันผวน ดังนั้นคาด SET จะรีบาวด์ขึ้นในกรอบ 1,819-1,838 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- BANPU ราคาถ่านหินสูงสุดในรอบ 13 เดือน 108.25 $/Ton
- PTTEP PTTGC IRPC ราคาน้ำมันสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ 66.34 $/bbl
- NYT ยอดส่งออกรถยนต์ ธ.ค.โต 11.28% มาที่ 95,834 คัน
- CENTEL ERW MINT นักท่องเที่ยว ธ.ค. 60 ทำสถิติสูงสุดใหม่
- AMATA WHA ร่างพรบ.อีอีซีจะเข้าสู่ที่ประชุมสนช.ราวเดือนก.พ.
- AIT ILINK ITEL กสทช.เตรียมประมูลเน็ตชนบทเดือนก.พ. 61
- หุ้นที่ผลประกอบจะเติบโตในไตรมาส 4/60 ANAN COMAN XO MALEE TWPC JUBILE AMA D SGP TRUE PTTEP PTTGC TPCH SYNEX IVL ASIMAR VCOM ORI
หุ้นมีข่าว
PTTEP คาดปี 61 ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง
- รายงานผลการดำเนินงานปี 60 ที่ 2 หมื่นล้านบาท +66%YoY แต่หากไม่รวมค่าใช้จ่ายด้อยค่า 1.8 หมื่นล้านบาท กำไรปกติจะเติบโตกว่า 200% สู่ระดับ 3.8 หมื่นล้านบาท โดยกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 5%QoQ สู่ระดับ 3.13 แสนบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากกการเพิ่มกำลังการผลิตจากแหล่งในอ่าวไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7%QoQ สู่ 41.7 $/bbl จากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันสู่ระดับ 5.75 $/mmbtu ด้านต้นทุนการผลิตปรับตัวขึ้น 8%QoQ สู่ระดับ 31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากค่าใช้จ่ายในการบริหารซึ่งเพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล
- คาดปี 61 ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้น 2 KBD สู่ 302 KBD และราคาจำหน่ายก๊าซฯ ปรับตัวขึ้นจาก 5.6 $/mmbtu สู่ 6.2 $/mmbtu ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นนอกจากนี้ยังมีการปรับราคาจำหน่ายก๊าซฯ ในพม่าเพิ่มเติม ขณะที่ต้นทุนการผลิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ 30 $/bbl
- ประกาศจ่ายปันผล 2.75 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 7 ก.พ. 61 รวมทั้งปี 60 จ่ายปันผลรวม 4.25 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนราว 3.5% ต่อปี
- ITEL (ราคาปัจจุบัน 4.96 บาท Bloomberg Consensus 7.7 บาท)
- จากที่ประชุม บริษัทได้ขยายความประเด็นความเสี่ยงจากการนำสายไฟลงดิน ที่เป็นผลให้บริษัทจำเป็นต้องหาอุปกรณ์เพื่อรองรับการนำสายไฟเบอร์ออฟติกของบริษัทในธุรกิจให้บริการโครงข่าย (สัดส่วนรายได้ 50%) ลงดิน เดิม Option แรกคือการเช่าท่อสายไฟฟ้าใต้ดินจาก TOT เป็นรายจ่ายรวมทั้งสิ้นราว 41 ลบ./ปี (ประเมิณจากความยาวสายที่คาบเกี่ยวบนพื้นที่เป้าหมายราว 171 กม.) แต่บริษัทได้มีการเจรจากับบริษัทย่อยของ ADVNAC เพื่อทำ Deal Co-share แผนการลงทุน ซึ่งสุทธิแล้วเป็นผลให้ค่าใช้จ่ายต่อปีจะลดลงเหลือราว 5 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังตั้งเป้ารายได้ปี 61 เติบโตราว 40%
- การเจรจาเพื่อหา Co-share ดังกล่าว นอกจากจะส่งผลให้ ITEL ลดมูลค่าความเสียหายลงได้แล้ว ยังเป็นผลให้บริษัท มีโอกาสในการเพิ่ม Know-how ในการรับเหมางานนำสายไฟฟ้าลงดินเพิ่มเติม ทั้งนี้ ราคาหุ้นในช่วงก่อนหน้า (ต้น ธ.ค. 60 – จุดต่ำสุด) ได้มีการปรับตัวลดลงกว่า 17% ก่อนที่จะฟื้นตัวมาที่ปัจจุบันราว 15% แต่ปัจจุบัน PER กว่า 60.2 เท่าสะท้อนความคาดหวังต่การเติบไปพอสมควร แม้ยังมี Upside จากราคาเหมาะสม (BB Consensus) 55% แต่ทั้งนี้ บริษัทยังมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมโครงการอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลเพิ่มเติมจึงแนะนำให้ติดตามความคืบหน้าของโครงการดังกล่าวก่อนเข้า “เก็งกำไร” ตามกระแสเท่านั้น
- บอสใหญ่ ATP30 กางแผนงานปี 61 ตั้งเป้ารายได้โต 20% แย้มแผนเจรจารับงานใหม่ คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ 2-3 ราย บริษัทยังคงเน้นกลยุทธ์การรักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ เพื่อสร้างรายได้ในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปี 2561 บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ที่มีการเซ็นสัญญาในปี 2560 เข้ามา ประกอบด้วย Bridgestone, TOP, IRPC ซึ่งทั้งหมดจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 1/2561 (ที่มา ทันหุ้น)
- ความเห็น ฝ่ายวิจัยคาดรายได้ ปี 61 อยู่ที่ราว 412 ล้านบาทเติบโต 19% และคาดกำไรราว 36.5 ล้านบาทเติบโต 37% โดยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเนื่องจากพื้นที่ให้บริการอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี สำหรับปี 60 คาดกำไรราว 26.7 ล้านบาทเติบโต 22% กำไร 9M60 มีกำไรสุทธิ 15.7 ล้านบาท ลดลง 15%YoY คิดเป็น 59% ของประมาณกำไรทั้งปี ทั้งนี้แนวโน้มกำไร 4Q60 มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นมากจากการเริ่มให้บริการลูกค้าใหม่ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง
- ประเด็นบวกรับเหมา คณะกรรมการการรถไฟฯได้มีการพิจารณาการจัดทำข้อมูลของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินช่วงกรุงเทพฯ-ระยอง วงเงิน 2.15 แสนล้านบาทเพิ่มเติมในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ก่อนเสนอต่อครม.โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อดำเนินการเปิดประมูลโครงการภายในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2561
- JASIF แบงก์กรุงเทพ (BBL) ขายหุ้นออกจำนวน 380 ล้านหน่วย มูลค่ารวม 4.40 พันล้านบาท ขณะที่ “บัวหลวง” ย้ำยังคงเจรจาซื้อขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯ เฟส 2 อยู่ และจะได้ข้อยุติในไตรมาส 2 นี้ และพร้อมเข้าซื้อขายได้ในไตรมาส 3/61 (ที่มาข่าวหุ้น)
- AUCT ได้ลูกค้าใหม่ “ศรีสวัสดิ์” ป้อนรถกว่า 1.2 หมื่นคันนำไปเปิดประมูล ขณะที่กรุงศรีออโต้บุกตลาดลีสซิ่งหนักในปีนี้ ส่งรถกว่า 2 หมื่นคัน ผู้บริหารมั่นใจปีนี้รายได้ทะลุเป้า 14% ยอดขาย 6 หมื่นคัน
- MINT ยันไม่ใช่เจ้าของที่ดินรร.อนันตรา สิเกา จ.ตรังที่มีกรณีพิพาท แค่เพียงรับบริหาร,สัดส่วนรายได้ไม่มีผลกระทบนัยสำคัญ
- PLANB จะใช้เงิน 262.21 ลบ.ซื้อหุ้น 19.48%ใน"แบงคอก เมโทรฯ"ขยายธุรกิจสื่อในรถไฟฟ้าใต้ดิน คาดแล้วเสร็จ Q1/61
|
บันทึกโดย : วันที่ :
29 ม.ค. 2561 เวลา : 10:00:58
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น