รายงานข่าวจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า วานนี้ (29 ม.ค.60) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ 26,439.48 จุด ลดลง 177.23 จุด หรือ -0.67% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,853.53 จุด ลดลง 19.34 จุด หรือ -0.67% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,466.51 จุด ลดลง 39.27 จุด หรือ -0.52% - อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.716% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2557 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 2.954% จากการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง และเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้น เป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นให้ปรับตัวลดลง - CME Group เปิดเผยผลวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 26% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 23% เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา - ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง 0.9% ตามหุ้นแอปเปิล หลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ได้แจ้งซัพพลายเออร์ว่า ทางบริษัทจะปรับลดเป้าการผลิต iPhone X สำหรับไตรมาสแรกในปีนี้ลงครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 20 ล้านเครื่อง เนื่องจากยอดขายที่ต่ำกว่าคาดในหลายประเทศ รวมถึงข่าว คณะทำงานฝ่ายความมั่นคงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาการสร้างระบบเครือข่ายไร้สายความเร็วสูง 5G โดยระบุว่าเพื่อเป็นการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ส่วนตัวเลขการออมของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 3.516 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2550 ขณะที่ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.
ข่าวเด่น