Market summary
เมื่อวานนี้ ตลาดปรับฐาน ทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงขายมากในกลุ่ม พลังงาน (PTT, PTTEP, GULF) รวมถึงธนาคารพาณิชย์ (SCB, BBL) ในขณะที่มีแรงซื้อพยุงจากกลุ่มโรงพยาบาล (BDMS) โดย ณ. สิ้นวัน SET ยังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 10 วันได้ โดยมาปิดที่ระดับ 1,826.61 จุด (-10.88 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 5.4 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,573 ล้านบาท และเปิดสถานะ Short SET50 index future 12,434 สัญญา
Investment theme
แนะเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากยิ่งขึ้น : ระยะสั้นเริ่มมีปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกเข้ามากดดันมากขึ้น เริ่มตั้งแต่สัญญาณอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งล่าสุดยังคงแกว่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี ที่ระดับ 2.725% ตอบรับโอกาสที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีนี้มากกว่า 3 ครั้ง โดยหากอัตราผลตอบแทนยังคงมีสัญญาณการเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง อาจจะเป็นปัจจัยที่เพิ่มความกังวลต่อเม็ดเงินที่เก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงไหลออก เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล เริ่มน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น โดยความกังวลดังกล่าวสะท้อนออกมาอย่างเห็นได้ชัดจากดัชนี VIX Index ซึ่งเป็นเป็นดัชนีที่วัดความผันผวนของ S&P500 โดยล่าสุดพบว่า VIX ดีดตัวขึ้นแรงทำจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน บ่งชี้ถึงความกลัวของตลาดมีมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจกดดันการปรับฐานของตลาดหุ้นช่วงสั้นได้ นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องจับตาเพิ่มเติม คือการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน เช่น ราคาน้ำมันดิบ, ถ่านหิน ซึ่งถือเป็น indicator สำคัญของการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นเช่นเดียวกัน จึงจำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
Investment theme: ปัจจัยลบเริ่มมากขึ้น ท่ามกลางตลาดที่เทรดบน Valuation ที่ค่อนข้างสูง (Forward PER 16.6 เท่า) ดังนั้นจึงแนะนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย อาจกระชับพอร์ตการลงทุนลงบ้าง เพื่อรอจังหวะเข้าซื้อในช่วงถัดไป
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา –อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี สหรัฐฯ ปรับขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 2.725% ทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี / ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค US เดือน มค. ที่ 125.4 จุด ดีกว่าคาดที่ 123 จุด
บทวิเคราะห์วันนี้ : TSTH (T-Buy @1.1) รายงานกำไรสูงเด่นมากกว่าคาด
Stock pick : TSTH
TSTH : แนะนำ “Trading Buy” ราคาเหมาะสม 1.10 บาทต่อหุ้น
ประกาศผลประกอบการ 3Q60/61 (ต.ค. – ธ.ค. 2560) มีกำไรที่สูงเด่นถึง 240 ล้านบาท (+30%QoQ, +5%YoY) มากกว่าที่เราคาดไว้ที่ 91 ล้านบาท และถ้าตัดขาดทุนในอัตราแลกเปลี่ยน จะมีกำไรปกติสูงถึง 275 ล้านบาท จากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับขึ้น +6%QoQ, +24%YoY
คาดไตรมาส 4Q60/61 (ม.ค. – มี.ค. 2561) ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น จะยังมีกำไรในเกณฑ์ดี กำไร 9 เดือนแรกคิดเป็นสัดส่วนถึง 81% ของประมาณการทั้งปี
ฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีสัดส่วนหนี้สุทธิต่อทุนต่ำเพียง 0.14 เท่า เราคงคำแนะนำ Trading Buy ประเมินราคาเป้าหมาย 1.1 บาท ซึ่งเท่ากับมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น
Trading idea – – เก็งกำไร TTCL ลงนามขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าในพม่า / ย่อสะสมหุ้นกลาง-เล็กที่แนวโน้มกำไรดี (SF, ATP30, SPCG, TPIPP, PRM, DDD)
Technical View
ลงปิด Gap แต่ยังคงไม่สามารถกลับมายืนได้ : ดัชนีปรับตัวลงแรงจากหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันโลกปรับตัวลง โดยปรับตัวลงปิด Gap ที่ 1830 จากนั้นระหว่างวันแกว่ง Sideway Down และพยายามดีดตัวขึ้นในช่วงบ่าย แต่ยังคงไม่สามารถยืนเหนือ 1830 ได้ ระยะสั้นหากยังไม่สามารถยืน 1830 คาดมีโอกาสตัวลงทดสอบแนวรับที่ 1820 และ 1815 แต่หากยืนได้คาดแกว่งในกรอบ 1830-1840 กลยุทธ์การลงทุน 1) ลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1820-1840 , ลงทุนระยะกลาง ลดพอร์ตบางส่วนแล้วรอดูแนวโน้มที่แนวรับถัดไป 2) ไม่มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1820-1840
แนวรับ : 1820, 1815 แนวต้าน : 1830, 1840
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : เช้าวันนี้ติดตาม Donald Trump แถลงนโยบายประจำปีต่อสภาครองเกรส (State of the Union) / คืนนี้ประชุม FOMC คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%
ปัจจัยในประเทศ : 31 มค. ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมไทย ธค. คาด +3.5%YoY
หุ้นเทคนิค:
KBANK (B 230.00, Tp 240.00//245.00, Cut 227.00)
PTT (B 484.00, Tp 498.00, Cut 480.00)
ข่าวเด่น