ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน าด SET Index ย่อตัวลงอีก (31/01/61)


 Today Selections   >>  JKN, JMART, PSH

Stock          S          R         Comment
JKN          16.50      17.20       ชี้ความนิยมซีรีส์อินเดียพุ่ง ขายหมดเกลี้ยงทุกล็อต
JMART        23.70      25.00       พร้อมในการเสนอขายดิจิทัลโทเคน "เจฟิน"(JFin Coin)
PSH          24.10      24.60       ศก.หนุนอสังหาโต 10% ค่าแรงดันราคาบ้านพุ่ง

An immune market
          SET : คาด SET Index ย่อตัวลงอีกในวันนี้ตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยมีปัจจัยกดดันได้แก่ Bond yield สหรัฐฯที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นตัวกดดัน Earning yield gap และราคาน้ำมันที่ย่อตัวลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันกลุ่มพลังงานเป็นสำคัญ
          Immune : อย่างไรก็ดี ยังคงมีมุมมองเดิมต่อจากวานนี้ว่า ตราบใดที่ Bond yield ของไทยยังคงไม่ปรับตัวขึ้นตาม Bond yield สหรัฐฯ โอกาสที่นักลงทุนในประเทศจะมีการโยกย้ายสินทรัพย์ออกจากตราสารทุนเข้าสู่ตราสารหนี้ยังคงมีน้อยอยู่ ซึ่งก็จะเป็นแรงค้ำยัน SET Index ไม่ให้ปรับตัวลงแรงเหมือนตลาดหุ้นอื่นๆ ไม่นับรวมกับประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติถือครองหุ้นไทยอยู่ในระดับต่ำแล้ว ด้วยเหตุนี้จำเป็นต้องติดตามระดับ Bond yield ในประเทศอย่างใกล้ชิด หากมีการปรับขึ้นเมื่อไหร่ มองจะเป็นปัจจัยกดดันต่อ SET Index อย่างมีนัยสำคัญ
          Factors : ติดตามปัจจัยที่สำคัญในวันนี้ได้แก่
          1) การรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนประจำเดือนมกราคม ซึ่งล่าสุดออกมาแล้วที่ระดับ 51.3 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อยที่ 51.6 มองเป็น Sentiment เชิงลบเล็กน้อยต่อราคาโภคภัณฑ์ และตลาดหุ้นเกิดใหม่
          2) การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยประจำเดือนธันวาคมจากธปท. โดยมีตัวเลขที่เราให้ความสนใจได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account) เครื่องชี้การบริโภค (PCI) และการลงทุนภาคเอกชน (PII) รวมไปถึงการเติบโตของฐานเงินในประเทศ (M2 Growth)
          3) ผลการการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งเราคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในฐานะประธาน Fed ของนาง Janet Yellen และเป็นการประชุมรอบเล็กที่ไม่มีการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจและ Dot Plots ออกมา
          PTTEP : พบปริมาณธุรกรรม Short sales อย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา เฉลี่ยวันละ 14% ของปริมาณการซื้อขายในกระดานหลัก ถือเป็นระดับสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อน มองอาจเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของราคาหุ้นในระยะสั้น แนะนำนักลงทุนให้ใช้ความระมัดระวังในการเข้าลงทุน
          กลยุทธ์การลงทุน: ตราบใดที่ Bond yield ในประเทศยังไม่ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มอง Downside ของ SET Index จะไม่ลึกมากนัก มองกลุ่มพลังงานมีโอกาสอ่อนตัวในช่วงสั้นจากราคาน้ำมันที่ย่อตัวลง แนะนำ Selective play ไปยังกลุ่มเหล่านี้ต่อไป
          1) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีเงินปันผลในระดับน่าสนใจได้แก่ AP, LH, QH, SIRI
          2) กลุ่มสื่อสารที่ได้ประโยชน์จากการลดข้อจำกัดต่างๆของภาครัฐ ได้แก่ ADVANC, TRUE
          3) หุ้นพื้นฐานดีที่ปีที่แล้วเป็นหนึ่งใน The most laggards จึงมี Downside ที่จำกัด ได้แก่ CK, TU
          4) หุ้นกลุ่ม Small cap ที่เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" ได้แก่ JMT, PRM
          5) หุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า, ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง และ Seasonal effect ของค่าการกลั่น ได้แก่ BCP, IRPC, SPRC
          6) กลุ่มค้าปลีกที่อาจได้อานิสงส์ในระยะสั้นจากประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีลูกค้าฐานรากเป็นสำคัญ ได้แก่ GLOBAL, ROBINS, SINGER, TNP
ส่วนกลุ่มที่แนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือ Underweight ได้แก่ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอาหาร

          แนวรับ  1,813  แนวต้าน 1,842

บทวิเคราะห์วันนี้ :

  • ANAN (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.10 บาท) เลื่อนโอนจาก 4Q60 หนุน 2561 กำไรก้าวกระโดด

Today's Event :

  • BEAUTY ลูกหุ้นเข้า 2,106,680 หุ้น
  • NUSA ลูกหุ้นเข้า 693,944,633 หุ้น

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 31 ม.ค. 2561 เวลา : 10:35:55

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 4:15 am