ยังเลือกตัวเก็งกำไรได้ ขณะที่ภาพรวม ก.พ. นักลงทุนจะเพิ่มความระวังมากขึ้น

  เฟดมีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.25-1.50% ตามที่ตลาดคาด แต่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจนขึ้น และคาดการณ์การปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อ ซึ่งตลาดได้สะท้อนผ่านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้นล่วงหน้าในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสหรัฐฯ ที่มากกว่า 2.70% เป็นระดับที่ลดทอนความน่าสนใจของหุ้น และอาจดึงเงินทุนไหลกลับเข้าลงทุนในตราสารหนี้สหรัฐฯ ทำให้ตลาดเกิดใหม่ (EM) รวมถึงไทย เผชิญความเสี่ยงจากการปรับพอร์ตของต่างชาติและเงินทุนไหลออกระยะสั้นได้ 
ปัจจัยสำคัญและ downside ของความผันผวน จะมาจากการรายงานตัวเลขผลประกอบการ ซึ่งหากผลประกอบการชะลอตัวลง หรือไม่ดีดังคาด จนส่งผลให้ Earnings yield ของหุ้นลดลง จะทำให้ตลาดมีความเสี่ยงในการปรับลงทดสอบ 1800 จุดหรือต่ำกว่าได้ อย่างไรก็ตามเราคาดเม็ดเงินบางส่วนหมุนไปยังหุ้นในกลุ่มที่ปรับขึ้นน้อยในช่วงก่อนหน้า แต่ไม่มีปัจจัยลบ ขณะที่อาจมีแรงทำกำไรในกลุ่มที่ปรับขึ้นมาก ตลาดยังมีบรรยากาศของการเลือกตัวเก็งกำไรได้ แต่ภาพรวมของเดือนก.พ.คาดจะเห็นมุมมองของนักลงทุนที่เพิ่มความระมัดระวังระยะสั้นมากขึ้น
  Investment Theme เน้นหุ้นปันผลที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนมากขึ้นในช่วงนี้ แนะนำ LH INTUCH ADVANC IRPC PM MAJOR // หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform ในช่วงที่ผ่านมา BDMS BCH THG*//ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มเดินเรือที่คาดได้รับปัจจัยบวกจากค่าระวางเรือ (BDI) ขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA //หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ HTC*, RSP*, MBK*, MONO*, TVO*, SPALI, MILL*, COM7*, TTCL*, TK, SKE*, BFIT*, BANPU
  ภาพรวมกลยุทธ์: หุ้น Underperform และ Valuation ไม่แพง คาดจะปลอดภัย (Defensive) ต่อความผันผวน ของหุ้นโลกที่สูงขึ้น แบ่งขายทำกำไรในกลุ่มที่เกี่ยวกับโภคภัณฑ์ นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง  // หุ้นแนะนำ MAJOR, BDMS, AMANAH
  แนวรับ 1820 / แนวต้าน : 1834-1840 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน
  โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปิดบวกขานรับสต๊อกน้ำมันกลั่นและน้ำมันเบนซินของสหรัฐณปรับตัวลดลง / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,152 จุด (-3.27%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 104.35 เหรียญฯต่อตัน (-2.61%)
  เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด มองเงินเฟ้อเป็นบวกมากขึ้น – ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.25-1.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. โดยระบุในแถลงการณ์ว่า เฟดฯคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ โดยเฟดฯ ใช้นโยบายการเงินที่มีเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2%
ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. – การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 234,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง และใกล้เคียงกับระดับ 250,000 ตำแหน่งในเดือน ธ.ค.
  อัตราว่างงานยูโรโซนต่ำสุดในรอบเกือบ 9 ปี - สำนักงานสถิติแห่งชาติยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า จำนวนผู้ว่างงานในยูโรโซนลดลง 134,000 คนในเดือนธ.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 8.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 9 ปี
  ธปท.ระบุศก.ปี 60 มีแนวโน้มขยายตัว 4% ส่วนปี 61 คาดโต 3.9% – เศรษฐกิจไทยปี 60 มีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ 4.0% สูงกว่าที่ ธปท.คาดการณ์ไว้ที่ 3.9% เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีกว่าที่คาด โดยทั้งปีการส่งออกขยายตัวได้ 9.7% รวมทั้งการท่องเที่ยว ยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่องในเกือบทุกกลุ่มสัญชาติ โดยเดือน ธ.ค.ขยายตัว 15.5% 
  ประเด็นติดตาม: 01 ก.พ. US – ประชุมนโยบายการเงินสหรัฐฯ, TH - อัตราเงินเฟ้อ เดือน ม.ค.
  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)