คำแนะนำ
เน้นทำกำไรระยะสั้น โดยการเข้าซื้อมีแนวรับบริเวณ 1,326-1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,326 1,313 1,306
แนวต้าน 1,342 1,351 1,366
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 15.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันสำคัญจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนม.ค. โดยปรับตัวขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานซึ่งเป็นหนึ่งในข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ใช้เพื่อวัดอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.3% และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปีซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปี สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ และเป็นปัจจัยหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและสกุลเงินดอลลาร์ให้พุ่งขึ้นกดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ตามราคาทองคำแกว่งตัวลงในกรอบโดยได้รับปัจจัยบวกจากการร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 1 ปีของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กซึ่งช่วยกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐจากมาร์กิตและ ISM
ปัจจัยทางเทคนิค
ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,326-1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้น โดยหากยืนเหนือบริเวณ 1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ การขยับขึ้นจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,351 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก กรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,313-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
เน้นทำกำไรระยะสั้นโดยรอเปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,326-1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดให้ชะลอการเข้าซื้อไปยังโซนแนวรับถัดไป ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อรอเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาอ่อนตัว
ข่าวเด่น