รายงานข่าวจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า วานนี้ (6 ก.พ.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,912.77 จุด พุ่งขึ้น 567.02 จุด หรือ +2.33% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,695.14 จุด เพิ่มขึ้น 46.20 จุด หรือ +1.74% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,115.88 จุด เพิ่มขึ้น 148.36 จุด หรือ +2.13% - นักลงทุนหาจังหวะเข้ามาช้อนซื้อหุ้นหลังจากดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างหนักติดต่อกัน 2 วันทำการ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากตัวเลขจ้างงานและค่าแรงในสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ - ด้านนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ เปิดเผยว่า สภาวะตลาดหุ้นโดยรวมยังคงปกติ แม้ตลาดปรับตัวผันผวน แต่ปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง แต่ทั้งนี้มองว่าการซื้อขายหุ้นที่มีการตั้งโปรแกรมคอมพิวตอร์ล่วงหน้า ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นให้ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 1,175 จุด ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงหนักเป็นประวัติการณ์ - วานนี้แรงซื้ออยู่ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค และยานยนต์ - นักลงทุนจับตาสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเตรียมลงมติร่างกฎหมายงบประมาณ ก่อนที่งบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในวันพฤหัสบดีนี้ รวมถึงตัวสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค.
ข่าวเด่น