ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน ค่าเงินสหรัฐฯ เริ่มแข็งค่ากดดันโภคภัณฑ์ตามที่คาด (08/02/61)


 ค่าเงินสหรัฐฯ เริ่มแข็งค่ากดดันโภคภัณฑ์ตามที่คาด
  ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ยังคงผันผวนช่วงกว้างก่อนปรับตัวลดลง โดย DJIA แกว่งตัวกว่า 500 จุดระหว่างระดับสูงสุดและต่ำสุด ส่วน S&P500 ติดลบ 0.50% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมใน S&P500 ที่ปรับลดลงมากที่สุด ได้แก่ Oil&Gas -1.70% ทั้งจากตัวเลขสต็อคน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นและค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นกดดันต่อสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันดิบ รวมทั้งราคาทองคำ ซึ่งเป็นไปตามที่เรากังวล ทั้งนี้การปรับฐานของหุ้นสหรัฐฯที่มาจากกำไรโต แต่ไม่ทันกับราคาหุ้นที่ปรับขึ้นเร็วกว่า ทำให้ส่วนต่างของ Earnings Yield Gap หดแคบลงอย่างรวดเร็วและต่ำสุดในรอบ 8 ปี ทั้งนี้การที่หุ้นสหรัฐจะกลับสู่ระดับที่น่าสนใจจะเกิดได้จาก 2 กรณีคือ 1) ราคาหุ้นปรับลดลงราว 13% หรือ S&P ที่ระดับ 2500 จุด หรือต่ำกว่า 2) แนวโน้มกำไรถูกปรับประมาณการขึ้นต่อเนื่อง จนทำให้ Earnings yield ปรับขึ้นมากกว่าความเสี่ยงผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ที่มีแนวโน้มปรับขึ้นได้ 
  Investment Theme หุ้นไทยยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน โดยมี downside ในระดับ 1760 และ 1730 จุด ทั้งนี้ราคาโภคภัณฑ์และการแข็งค่าของเงินสหรัฐฯ ที่เสี่ยงต่อการไหลของของเงินทุนระยะสั้นจากตลาดเกิดใหม่ (Emerging market) คาดจะสร้างแรงกดดันต่อเนื่องในหุ้นใหญ่ที่ปรับขึ้นมามาก ขณะที่หุ้นกลาง-เล็กที่ Underperform ในช่วงที่ผ่านมา และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว มีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีกว่า ส่วนหุ้นใหญ่ที่เน้นบริโภคในประเทศ อาทิ ธนาคาร สื่อสาร หรือมีการถือครองน้อย (Under-owned) อย่างการแพทย์ // อิเล็กทรอนิกส์ คาดเป็นเพียง technical rebound จากบาทอ่อน แต่มีแนวโน้มถูกปรับประมาณการกำไรลง//ปิโตรเคมี ระวัง PET spread ลดลง 20.4% WoW อาจทำให้มีแรงทำกำไร IVL //หุ้นที่ได้ประโยชน์จากบอนด์ยีลที่ปรับขึ้น TIP*, THREL* // หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform & Under-owned ในช่วงที่ผ่านมา BDMS BCH THG*//ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มเดินเรือที่คาดได้รับปัจจัยบวกจากค่าระวางเรือ (BDI) ขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA // SCB ความเสี่ยงผิดนัดชำระของ PACE ที่เพิ่มขึ้นหลังขายโครงการให้ SIRI ไม่สำเร็จ กดดันให้อาจต้องตั้งสำรองเพิ่มเติม
  ภาพรวมกลยุทธ์: ถือเงินสดราว 25-30% เพื่อเลือกซื้อในจังหวะปรับฐาน เน้นกลุ่มที่ราคายังขึ้นน้อย (underperform) หรือมีการถือครองน้อย (under-owned) ในช่วง 6-12 เดือนที่ผ่านมา อาทิ การแพทย์ อสังหาริมทรัพย์ สื่อสาร หรือเข้าสู่ฤดูผลประกอบการสูง อาทิ ท่องเที่ยว ได้แก่ BDMS, BH, BCH, THG*, VIH*, LH, QH, SC*, ADVANC, INTUCH, ERW, MINT นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง  // หุ้นแนะนำ MAJOR, BDMS, PSL*, ATP30*
แนวรับ 1770/ แนวต้าน : 1800-1810 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน
  อังเกลา แมร์เคิล บรรลุข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมใหม่  – นายกฯ อังเกลา แมร์เคิล บรรลุข้อตกลงก่อตั้งรัฐบาลร่วมใหม่กับพรรคโซเชียลเดโมแครต (SPD) ในวันพุธที่ 7 ก.พ. หลังจากล้มเหลวในการเลือกตั้งเดือน ก.ย.60 
  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจีนปี 60 ขยายตัว  – ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจีน (CCI) ปี 60 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 112 จาก 106 ในปี 59 ขานรับเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง
  สหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้น หลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์  – สภาคองเกรสสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายระยะสั้น ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯมีงบรายจ่ายจนถึงวันที่ 23 มี.ค.61 และจะทำให้มีงบประมาณด้านกลาโหมจนถึงเดือนกันยายน
พาณิชย์มั่นใจส่งออกปี 61 โตกว่า 6% – รมว.พาณิชย์มั้นใจ ยอดส่งออกไทยปี 61 มีโอกาสขยายตัวมากกว่า 6% อย่างไรก็ตามยังต้องรอสรุปความชัดเจนหลังประชุมทูตพาณิชย์ในวันที่ 21-22 ก.พ. นี้
  ประเด็นติดตาม: 08 ก.พ. TH –สนช.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.EEC, UK – ประชุมนโยบายการเงิน, CN – ตัวเลขการค้า เดือน ม.ค. / 09 ก.พ. CN – อัตราเงินเฟ้อ เดือน ม.ค., 14 ก.พ. TH – ประชุมนโยบายการเงิน (กนง.)
  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)


บันทึกโดย : วันที่ : 08 ก.พ. 2561 เวลา : 10:33:10

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:06 pm