สภาวะตลาดวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,313.82-1,327.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,850 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 19,900 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,860 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.34 น. ของวันที่ 12/02/61)
แนวโน้มวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561
ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนอย่างหนักตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเทขายอย่างหนักกดดาวโจนส์ และ S&P 500 เข้าสู่ช่วงการปรับฐาน ทั้งนี้ ข้อมูลของลิปเปอร์ ซึ่งให้บริการด้านการวิจัย บ่งชี้ว่า นักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนสหรัฐ ถอนเงินจำนวน 2.39 หมื่นล้านดอลลาร์ออกจากตลาดหุ้นในช่วงสัปดาห์ล่าสุด ซึ่งเป็นการถอนเงินทุนมากเป็นประวัติการณ์จากกองทุนเหล่านั้น จนกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตามราคาทองคำขยับขึ้นไปได้ไม่ไกลมากนัก หลังมีรายงานจากคณะกรรมาธิการการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) แสดงให้เห็นว่า กองทุนเฮดจ์และผู้จัดการกองทุนลดการเข้าซื้อทองคำ COMEX เป็นครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาห์ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 6 ก.พ. นอกจากนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าการดิ่งลงของตลาดหุ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นเพียงการปรับฐานตามปกติ ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของตลาดขาลงที่จะมีไปอีกนาน ประเด็นดังกล่าวหนุนสินทรัพย์เสี่ยงให้ฟื้นตัวขึ้นจนกลับมากดดันราคาทองคำอีกครั้ง ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ กลับมาเคลื่อนไหวเหนือ 90 โดยเดินหน้าฟื้นตัวขึ้น 1.4% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ รายงานจาก CFTC ที่มีการเปิดเผยในสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 6 ก.พ. บ่งชี้ว่า นักเก็งกำไรลดการขายดอลลาร์สุทธิเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ ซึ่งดอลลาร์ที่แข็งแกร่งทำให้ราคาทองคำแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งเป็นปัจจัยเชิงลบต่อราคาทองคำ ทั้งนี้ในระยะสั้นแนะนำนักลงทุนจับตายอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐที่ในขณะนี้ยังคงเป็นปัญหาที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังจากสภาคองเกรสผ่านข้อตกลงงบประมาณชั่วคราว และประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในข้อตกลงดังกล่าว ที่มีการคาดหมายว่าจะผลักดันให้ยอดขาดดุลงบประมาณทะยานเหนือ 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี จากแผนที่จะใช้งบประมาณของรัฐบาลกลาง มูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อฟื้นฟูโครงการสาธารณูปโภคภายในประเทศ ซึ่งกระแสข่าวในสหรัฐอาจส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์เคลื่อนไหวจนเป็นปัจจัยกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า น่าจะเห็นการดีดตัวของราคาทองคำในระยะสั้น หลังจากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลง โดยประเมินแนวต้านที่ 1,328 หรือ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถขยับขึ้นยืนเหนือ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ วายแอลจีเชื่อว่าราคาทองคำน่าจะมีการอ่อนตัวลงอีก ซึ่งหากราคาหลุดแนวรับ 1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์น่าจะเห็นการปรับตัวลงต่อ โดยประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระยะสั้นนี้ต้องยอมรับว่าทองคำมีความผันผวน และนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,306 (19,550บาท) 1,300 (19,450บาท) 1,291 (19,300บาท)
แนวต้าน 1,328 (19,900บาท) 1,337 (20,050บาท) 1,346 (20,150บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,306 (19,650บาท) 1,300 (19,560บาท) 1,291 (19,430บาท)
แนวต้าน 1,328 (19,990บาท) 1,337 (20,130บาท) 1,346 (20,260บาท)
ข่าวเด่น