สภาวะตลาดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,321.10-1,328.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,850 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 19,900 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,910 บาท

  (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.24 น. ของวันที่ 13/02/61)

แนวโน้มวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561
  แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอาจจะกระตุ้นการคุมเข้มนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าเฟดไม่ดำเนินการเร็วเพียงพอ ก็หนุนให้ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่เป็นตัวแทนอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินปรับตัวขึ้น ซึ่งจะกดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากผลสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐ สาขานิวยอร์ก ระบุว่า คาดการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐปรับลดลง โดยผลสำรวจคาดการณ์ของผู้บริโภค ซึ่งพิจารณาร่วมกับข้อมูลอื่น ชี้ว่าคาดการณ์เงินเฟ้อใน 1 ปีข้างหน้าโดยเฉลี่ย ปรับลดลงสู่ 2.71% ในเดือนม.ค. จาก 2.82% ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ค่าเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ 2.79% ในเดือนม.ค. ลดลงจาก 2.89% โดยการลดลงนี้เกิดจากรายได้ที่ปรับลดลงของผู้ทำแบบสำรวจ โดยในเดือนธ.ค. ข้อมูลดังกล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไป สอดคล้องกับ นักวิเคราะห์ที่ร่วมการสำรวจคาดว่า การเพิ่มขึ้นของ CPI รายปี อาจจะชะลอลงสู่ 1.9% จาก 2.1% ในเดือนธ.ค. ส่งผลให้นักลงทุนกล้าเข้าซื้อทองคำเมื่อราคาอ่อนตัวลง ทั้งนี้ นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค.ในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทยในวันพุธ ส่วนปัจจัยภายในประเทศแนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทประกอบการตัดสินใจลงทุน ซึ่งการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำภายในประเทศ ทั้งนี้ แนะนำติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เป็นครั้งแรกของปี ในวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 เพื่อประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศ เพื่อใช้ชี้นำทิศทางค่าเงินบาทเพิ่มเติม ซึ่งทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำอาจมีการเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Down โดยความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจลดลงจากช่วงที่ผ่านมา แต่ยังอยากแนะนำให้เน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะขยับลงทดสอบแนวรับ อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,319-1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวจะปรับตัวลงไปต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองคำแท่ง (96.50%) 
แนวรับ            1,319 (19,650บาท) 1,306 (19,450บาท)        1,300 (19,350บาท)
แนวต้าน          1,337 (19,950บาท)  1,346 (20,100บาท)        1,355 (20,200บาท)             
  
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ            1,319 (19,760บาท) 1,306 (19,570บาท)        1,300 (19,480บาท)
แนวต้าน          1,337 (20,040บาท)  1,346 (20,170บาท)        1,355 (20,310บาท)