คำแนะนำ
รอจังหวะการเปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,346-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสำหรับนักลงทุนที่ถือสถานะซื้ออยู่ แนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไป
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,346 1,337 1,326
แนวต้าน 1,366 1,375 1,384
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยอ่อนตัวลงก่อนในช่วงแรกหลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ที่พุ่งขึ้น 0.5%ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบรายเดือน โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.3% และหากเทียบรายปี ดัชนี CPI ทรงตัวที่ระดับ 2.1%ในเดือนม.ค.โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ1.9%เช่นกัน ทั้งนี้ ตัวเลขที่บ่งชี้เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ซึ่งส่งผลหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่ากดดันราคาทองคำในช่วงแรก อย่างไรก็ตามสกุลเงินดอลลาร์ไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้เพราะหากพิจารณาถึงตัวเลขยอดค้าปลีกที่แย่กว่าคาด ซึ่งก่อให้เกิดความวิตกเช่นกันว่าภาคการบริโภคที่ยังอ่อนแออาจเป็นอุปสรรคในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าและหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นราว 2% ขณะเดียวกับการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อยังหนุนราคาทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วย Hedge อัตราเงินเฟ้ออีกด้วย สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขในภาคการผลิตของสหรัฐและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำพยายามทรงตัวในระดับสูงและหากรักษาระดับได้ ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งแสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้น ทั้งนี้ หากยืนได้แข็งแกร่งมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเพื่อไปทดสอบ แนวต้านถัดไป 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับนั้นอยู่ในบริเวณ 1,346-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
เปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,346-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจพิจารณาแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,366 -1,375ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น