ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
MTS Gold Research | บทวิเคราะห์ราคาทองคำ (ภาคเช้า) ภาพรวมของราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น


ทิศทางราคาทองคำ

ภาพรวมของราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก หลังจากที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้ อันได้แก่ CPI และ Core CPI ออกมาดีขึ้นกว่าที่คาด ซึ่งบ่งบอกถึงสภาวะเงินเฟ้อที่มากขึ้น ขณะที่สภาพตลาดแกว่งตัวอย่างมาก และปรับตัวลดลงทันทีที่ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯนั้นประกาศออกมา โดยทองคำลงไปทำต่ำสุดบริเวณ 1,320 เหรียญโดยประมาณ ก่อนจะดีดกลับขึ้นมา 1,350 เหรียญ หลังประกาศข้อมูลยอดค้าปลีกสหรัฐฯ หรือ Retail Sales ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด จึงบ่งชี้ถึงสภาวะสวนทางว่าข้อมูลเงินเฟ้อออกมาดีขึ้นและสภาวะการใช้จ่ายจริงของผู้บริโภคออกมาแย่กว่าที่คาด และทำให้ตลาดคาดหวังว่าเฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้ยากลำบากจากสภาวะแรงซื้อที่ยังต่ำอยู่ ประเด็นดังกล่าวจึงผลักดันให้เกิดแรงเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จนทองคำทะลุแนวต้านขึ้นมาจากระดับ 1,340 เหรียญ ท่ามกลางการแกว่งตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างดัชนีดาวโจนส์ที่แกว่งตัวเช่นกัน ด้านกองทุน SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองที่823.66 ตัน สำหรับคืนนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยภาพรวมคาดว่า PPIและ Core PPI จะออกมาดีขึ้นค่อนข้างมาก ขณะที่ Unemployment Claims, Industrial Production  และ Philly Fed Manufacturing Index คาดว่าจะออกมาแย่ลง และสภาวะแบบนี้บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่ยังเติบโตไม่สมบูรณ์ และทำให้นักวิเคราะห์บางฝ่ายมองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยได้ช้าลง

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดบริเวณ 1,355 เหรียญ จึงทำให้ภาพรวมระยะสั้นของทองคำมีความผันผวนและไม่ค่อยแน่นอนนักสำหรับทิศทางทองคำ เนื่องจากราคายังคงเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับเส้นค่าเฉลี่ยโดยทั่วไป และเพิ่งมีการตัดขึ้นมาได้เมื่อคืนนี้ ขณะที่แนวต้านถัดไปของทองคำจะอยู่ที่ 1,365 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ขณะที่แนวรับจะยังอยู่ที่ 1,315 เหรียญ ภาพรวมยังวิเคราะห์ได้ว่าราคายังผันผวน จึงแนะนำให้ลงทุนในลักษณะลงซื้อขึ้นขาย ทำกำไรระยะสั้นเช่นเคยเนื่องจากราคายังไม่นิ่ง ด้านราคาทองคำไทยน่าจะถูกกดดันต่อจากการแข็งค่าของค่าเงินบาทจากระดับ 31.48 บาท/ดอลลาร์โดยประมาณ กลับตกลงมาในเช้าวันนี้หลุด 31.30 บาท/ดอลลาร์ มาที่ 31.28 บาท/ดอลลาร์ จึงทำให้ราคาทองคำไทยปรับตัวสูงขึ้นได้ไม่มากนักและน่าจะมีแนวรับใกล้เคียงเดิมระหว่าง 19,700 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 19,950 – 20,000 บาท/บาททองคำ และขอย้ำให้ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯใกล้ชิด โดยเฉพาะPPI และข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจต่างๆ

 

การลงทุน Gold D

เก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ ตามความผันผวนเป็นลักษณะ ลงซื้อขึ้นขาย ระหว่าง 1,315 – 1,365 เหรียญ

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

เก็งกำไรในกรอบลักษณะ Sideways เน้นลงซื้อขึ้นขายทำกำไรระยะสั้นๆเท่านั้น

- นักลงทุนที่ถือ Long Position  

ลงซื้อขึ้นขาย เน้นเล่นสั้นๆเท่านั้น หากผ่าน 1,355 เหรียญ ดูจะมีโอกาสขึ้นต่อได้

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ ซึ่งหากทองคำไม่หลุด 1,345 เหรียญ ให้ทำการปิดสถานะShort บางส่วน 30-50% 

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading 
Wait & See 
เน้นบริหารพอร์ตสมดุล เนื่องจากภาพระยะสั้นมีความผันผวนค่อนข้างมาก เน้นเล่นสั้นปรับพอร์ตมาทำกำไรขาลง


Gold Futures G18 
จะมีแนวรับที่ระดับ 20,000  บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,200  บาท
Gold Futures J18 
จะมีแนวรับที่ระดับ 20,060  บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,260  บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 


บันทึกโดย : วันที่ : 15 ก.พ. 2561 เวลา : 09:50:04

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:03 pm