คำแนะนำ
แนะนำการลงทุนอาจต้องเป็นไปในลักษณะรอจังหวะการอ่อนตัวลงของราคาค่อยเข้าซื้อ หรือราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,346 1,337 1,326
แนวต้าน 1,366 1,375 1,384
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐบางรายการที่อ่อนแอเกินคาด อาทิ ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ชะลอตัวลง 5.0 จุดในเดือนก.พ. โดยอยู่ที่ระดับ 13.1 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐทรงตัวเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนม.ค.สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ประกอบนักลงทุนเริ่มวิตกกังวลถึงผลกระทบจากหนี้สาธารณะของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลัง ความวิตกดังกล่าวกดดันสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ดีการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำถูกกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทำสถิติปิดพุ่งขึ้นเป็นวันทำการที่ 5 ติดต่อกัน ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง -2.36 ตัน ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้าง, ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน, ตัวเลขนำเข้าและคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและเงินเฟ้อจากม.มิชิแกน
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงพยายามกลับขึ้นไปทดสอบ 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ มีแนวโน้มขึ้นทดสอบ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถปรับขึ้นได้ จะเกิดแรงขายออกมาเป็นระยะ โดยแนวรับระยะสั้นจะอยู่ที่ 1,346 และแนวรับสำคัญจะอยู่บริเวณ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
หากยังไม่สามารถผ่าน 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ อาจใช้วิธีการลดพอร์ตการลงทุนในสถานะซื้อลง ขณะที่การเข้าซื้อควรรอเปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยืนเหนือแนวรับได้ และสำหรับนักลงทุนที่เก็งกำไรฝั่งขายระยะสั้น ยังคงต้องตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ล่วงหน้าให้ชัดเจน
ข่าวเด่น