คำแนะนำ
เน้นเก็งกำไรในกรอบ 1,337-1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเปิดสถานะซื้อในโซน 1,344-1,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,344 1,337 1,326
แนวต้าน 1,366 1,375 1,384
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 6.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งปี ขณะที่ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างพุ่งขึ้นเกินคาดแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปีครึ่ง ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นของสหรัฐในเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับตัวสูงขึ้นเกินคาดเช่นกัน สถานการณ์ดังกล่าวหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่า ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์, S&P500และ NASDAQ ดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสเกินคาดซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้เกิดแรงขายในตลาดทองคำ อย่างไรก็ตามราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐหลังจากมีรายงานข่าวว่า อัยการพิเศษสหรัฐได้ฟ้องร้องดำเนินคดีพลเมืองและองค์กรรัสเซียฐานแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐปี 2016 ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มในวันศุกร์จำนวน +3.24 ตัน สำหรับวันนี้ปริมาณการซื้อขายในตลาดทองคำอาจเบาบางกว่าปกติเนื่องจากตลาดจีนยังคงปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ตลาดสหรัฐปิดทำการในวันนี้เช่นกันเนื่องในวัน Presidents' Day
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,362-1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากครั้งที่ผ่านมาเกิดแรงขายทำกำไรสลับออกมา อย่างไรก็ตามหากการอ่อนตัวลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,344-1,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังมีโอกาสที่ราคาจะดีดตัวขึ้นได้ในระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
รอจังหวะการเปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,344-1,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และตัดขาดทุนหากหลุด 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมา และสำหรับนักลงทุนที่ถือสถานะซื้ออยู่ แนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,362-1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไป
ข่าวเด่น