ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
ซื้อขายในกรอบจำกัด
KGI คาด SET วันอังคารไซด์เวย์ หลังต่างชาติกลับมาขายสุทธิและหักล้างแรงซื้อต่อเนื่องจากฝั่งสถาบันในประเทศ เราประเมินตลาดหุ้นจะเทรดในกรอบจำกัดไปอีก 2-3 วันเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสู่ตลาด ด้านหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ปิดทำการในวัน Presidents Day ทำให้หุ้นเอเชียเช้านี้ไม่มีตลาดหลักมาอ้างอิง ขณะที่ปัจจัยภายในเป็นกลาง เมื่อวานสภาพัฒน์ฯ รายงาน GDP ไตรมาส 4/2560 โต 4.0% YoY ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ KGI และ consensus คาด แต่องค์ประกอบของ GDP ถือว่ามีการเติบโตค่อนข้างดี การบริโภคภาคเอกชน (คิดเป็น 55-60% ของ GDP) เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน และการส่งออกเร่งตัวต่อแม้เงินบาทแข็งค่า (ตามคาด) ทางเราประเมินว่าความล่าช้าของการเบิกจ่าย/ลงทุนภาครัฐฯ เป็นปัจจัยหลักที่ GDP ต่ำคาด แต่เรื่องดังกล่าวน่าจะคลี่คลายภายในครึ่งแรกของปีนี้ (อ่านเพิ่มในบทวิเคราะห์เศรษฐกิจวันนี้) ด้านปัจจัยภายนอก ติดตามรายงานประชุม (meeting minutes) ของเฟด (วันพรุ่งนี้) และรายงานประชุมของ ECB (วันพฤหัสฯ) เพื่อประเมินแนวนโยบายการเงินในช่วงถัดไป
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร COM7*, TOA, SIMAT
COM7* (เป้า Consensus 20.5 บาท) 1) คาดรายงานผลการดำเนินงาน 4Q60 สัปดาห์นี้ โตเด่น YoY, QoQ + Opportunity day วันที่ 22 ก.พ. 2) ผลการจัดงาน “Thailand Mobile Expo 2018” ครั้งที่ 29 (15 – 18 ก.พ.) ยอดขายในงาน ±2 พันล้านบาท (มากกว่าที่ผู้จัดงานคาด +5%) แสดงให้เห็นถึงดีมานด์สินค้าอุปกรณ์ไอทีเติบโตต่อเนื่อง แม้จะเพิ่งผ่านช่วง High season มา 3) ประเมินรูปแบบราคา แกว่งตัวรอสัญญาณการ Breakout แนวต้านเทรนไลน์ที่ 17.4 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 18 บาท / แนวรับ 16.8 บาท (Trailing stop 16 บาท)
TOA (เป้า Consensus 36.2 บาท) 1) ราคาหุ้น Pullback ลงมา หลัง Break แนวต้านสำคัญ 35 บาทได้ ยังคงแนะนำ "เก็งกำไร" ประเมินแนวรับ 33.75 บาท / แนวต้าน 35 บาท และถัดไปที่ 37 บาท (Stop loss 32.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานเป็นขาขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยฝ่ายวิจัยฯประเมินมูลค่าโครงการอสังหาฯที่จะเปิดใหม่ใน 1 - 2 ปีนี้จะกลับมาขยายตัวราว 10 - 15% ต่อปี เทียบกับปี 2560 ที่เติบโตเพียง 3 - 4% รวมทั้งโครงการ EEC ที่คาดจะทำให้ดีมานด์สีทาอาคาร เพิ่มขึ้นมากกว่าในอดีต ... Consensus คาดกำไรปี 2561โต 34.7% YoY 3) เริ่มทำการปรับราคาขาย 5 - 8% ในปีนี้แล้ว สะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับขึ้น ตามราคาน้ำมัน ทำให้ลดความเสี่ยงเรื่องอัตรากำไร
SIMAT (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) 1) เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานของ SIMAT จะเริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นแบบไตรมาสต่อไตรมาส โดยเริ่มจาก 1Q61 จาก i) ธุรกิจบรอดแบนด์ไม่เป็นตัวถ่วง ถึงจุดคุ้มทุนแล้ว EBITDA พลิกเป็นบวก และเตรียมรุกกลุ่มลูกค้าองก์กร ii) ธุรกิจ Label & Stamping parts รับออเดอร์ iPhone X ใน 1Q61 และ iPhone SE2 กลางปีนี้ iii) ธุรกิจ IT Solution มีโอกาสเติบโตอีกมากตาม เทรนด์ยุคดิจิตอล 2) ราคาหุ้น Pullback ลงมาหลัง Breakout แนวต้านสำคัญที่ 4.0 บาทได้ ยังคงแนะนำ "เก็งกำไร" ประเมินแนวรับ 3.9 บาท / แนวต้าน 4.2 บาท และถัดไปที่ 4.5 บาท (Trailing stop 3.78 บาท) ... คาดเตรียมประกาศซื้อกิจการเร็วๆนี้ (เรายังไม่รวมกำไรจากการซื้อกิจการใหม่ ในประมาณการฯ)
หุ้นในกระแส
สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นหลักของแต่ละกลุ่มที่แนวโน้มปีนี้ดี ตามที่เราแนะนำก่อนหน้า ที่บริเวณ SET index 1760 จุด แล้ว แนะนำ "ทยอยสะสมเพิ่ม" / "Let profit run" ต่อ สำหรับหุ้นกลุ่มหลักต่อไปนี้ และเพิ่มกลุ่มลีสซิ่ง (กนง ยืนยันนโยบายดอกเบี้ยไทยไม่ตามเฟด) โดยกำหนดจุด Trailing stop กรณี SET index ต่ำกว่า 1780 จุด
I. กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (รับอานิสงส์เศรษฐกิจโต + ดอกเบี้ยขาขึ้น) เลือก BBL*
II. กลุ่มค้าปลีก (รับอานิสงส์เศรษฐกิจโต + ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค. สูงสุดรอบ 36 เดือน) เลือก COM7*, SF
III. กลุ่มสื่อ (รับอานิสงส์เศรษฐกิจโต + ผ่านจุดต่ำสุดใน 4Q60) เลือก MONO*, RS (รัฐเตรียมใช้ ม.44 ช่วยยืดเวลาจ่ายไลเซนส์ทีวีดิจิตอล)
IV. กลุ่มนิคมฯ (รับอานิสงส์โครงการ EEC) เลือก AMATA*
V. กลุ่มท่องเที่ยว (รับอานิสงส์การท่องเที่ยว) เลือก AOT*
VI. กลุ่มลีสซิ่ง (ที่ประชุม กนง คงดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่อง) เลือก ECL
หุ้นมีข่าว
(+) เอสซีจีจ่อซื้อหุ้นบริษัทเวียดนามรุกการแข่งขัน 'ตลาดพลาสติก' (โพสต์ทูเดย์) เอสซีจีจ่อซื้อหุ้นบีเอ็มพี รัฐวิสาหกิจพลาสติกรายใหญ่ของเวียดนามเพิ่ม ระหว่างแปรรูปใหญ่ 9 มี.ค.นี้ นิตยสารนิกเกอิ เอเชียน รีวิว รายงานอ้างการเปิดเผยของนายเหวียนหว่างหนาน รองประธาน บริษัท นินห์ บินห์ พลาสติกส์ (บีเอ็มพี) รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตท่อพลาสติกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ว่า บีเอ็มพีจะเปิดขายหุ้นล็อตใหญ่ 29.51% ในวันที่ 9 มี.ค.นี้ ซึ่งเบื้องต้นบริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม ในเครือบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) ได้แสดงความสนใจเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวด้วย
(- กลุ่มเหล็ก TMT, THE) ญี่ปุ่นหวั่นทรัมป์ทำเหล็กทะลักเอเชีย (โพสต์ทูเดย์) กลุ่มเหล็กญี่ปุ่นกังวลมาตรการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐอาจทำเหล็ก-อะลูมิเนียมท่วมตลาดเอเชีย นายโทชิฮารุ ซาคาเอะ รองประธานบริษัท นิปปอน สตีล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เปิดเผยกับรอยเตอร์สว่า มาตรการตั้งกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะบังคับใช้หรือไม่นั้น อาจส่งผลกระทบให้เกิดภาวะเหล็กท่วมตลาดเอเชียได้
(- กลุ่มยานยนต์ ที่ผลิตชิ้นส่วน "มอเตอร์ไซต์" STANLY / ลีสซิ่งเน้น "มอเตอร์ไซต์" TK. GL) เก็บภาษีรถมอเตอร์ไซค์เพิ่ม "กรมสรรพสามิต" ลุยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (ไทยรัฐ) นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า หลังจากปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 2559เช่น กลุ่ม อีโคคาร์ ที่รถยนต์กลุ่มนี้ปล่อยก๊าซ CO2 ไม่ถึง 120 กรัมต่อกิโลเมตร (กม.) เสียภาษีสรรพสามิต 17% รถยนต์นั่งขนาดกลางความจุตั้งแต่ 1800-2000ซี.ซี.เช่น รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงอี 20 เสียภาษีสรรพสามิต 25% ของขายปลีกแนะนำกรมฯจึงได้นำแนวคิดดังกล่าวมาใช้กับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นกลุ่มปล่อยมลภาวะด้วยเช่นกัน
(0) FSMART ยันไม่หวั่น 7-11 ทำแบงก์เอเย่นต์ 'สมชัย’ปลัดคลังหนุน ชม ธปท.คิดรอบคอบแล้ว (ข่าวหุ้น) ฟอร์ท สมาร์ทฯ (FSMART) ไม่หวั่นหาก 7-11 ทำธุรกิจแบงก์กิ้งเอเย่นต์ เพราะมีฐานลูกค้าต่างกัน ลั่นเดินหน้าขยายตู้บุญเติมอีก 2 แสนตู้ หนุนรายได้ปี 61 โต 15-20% จ่อปิดดีลธนาคารอีก 3 ราย เดือน มิ.ย.นี้ ด้าน “สมชัย” ปลัดคลังออกมาหนุนสุดตัว ให้เซเว่นฯ เปิดรับฝากเงิน ถอนเงิน พร้อมยกยอ ธปท.คิดรอบคอบแล้ว ด้านผู้บริหารแบงก์ชาติเล็งปรับปรุงเกณฑ์ใหม่ คาดออกใช้ได้ภายในเดือน มี.ค.นี้
(+) EGCO* เล็งฟาด กำไร 3 พันล้าน ขายทิ้ง EASTW (ข่าวหุ้น) EGCO* ลุ้นฟาดกำไรกว่า 3,000 ล้านบาท หลังเซ็นขายหุ้น EASTW ที่ถือทั้งหมด 18.72% ให้ "มะนิลา วอเตอร์" คาดขายหุ้นแล้วเสร็จไตรมาส 1/61 หวังนำเงินไปลงทุนขยายธุรกิจในอนาคต
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
MAJOR* (Under Review) รายงานผลประกอบการต่ำคาดมาก ... อ่านบทวิเคราะห์ Alert วันนี้เพิ่มเติม ... แต่ยังประกาศปันผล 0.60 บาท (ทั้งปีจ่ายปันผล ดีกว่าคาด) หากต่ำกว่า 28 บาท แนะนำ Stop loss
ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) ประเมินแนวรับ 3.54 บาท แนวต้านเทรนไลน์ที่ 3.62 บาท และถัดไปที่ 3.9 บาท (Stop loss 3.4 บาท)
SF (เป้า Consensus 9.8 บาท) แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนด Trailing stop 9.25 บาท
ECF (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 7.35 บาท
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
KTC* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 245 บาท แม้ฝ่ายวิจัยฯ จะยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มธุรกิจของ KTC* แต่ประเมินราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาแรงถึง +54% YTD และ +71% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมานั้นแซงปัจจัยพื้นฐานไปแล้ว โดยราคาหุ้นในปัจจุบันคิดเป็น P/E ที่ 19x อิงจากอัตราการเติบโตของกำไรในอนาคตที่ 17% ในขณะที่ PEG ก็ >1.0x จึงปรับลดคำแนะนำเป็น "ถือ" (จากซื้อ) แต่ยังคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 245 บาท (อิงจาก P/E ที่ 16x หรือ PEG ที่ 1.0x) โอกาสในการ Upgrade ราคาเป้าหมายของหุ้นตัวนี้จะขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายในการกันสำรองในปี 2561/62 ว่าจะต่ำกว่า 820bps หรือไม่, การกลับรายการกันสำรอง NPL ในอดีต, และการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตว่าจะสูงกว่า 10% หรือไม่
กลุ่มขนส่ง น้ำหนักการลงทุน "เท่ากับตลาด" ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2561 โต 7.6-9.1% YoY เป็น 38-38.5 ล้านคน สำหรับในขณะนี้ เราคิดว่า 1Q18 จะเป็นไตรมาสที่กำไรของกลุ่มขนส่งทางอากาศแข็งแกร่ง เพราะเป็นช่วง High season ของการท่องเที่ยว
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยต้าน 1814 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1814 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1814-1826 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1814 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1814-1791 จุด
แนวรับวันนี้: 1806/1792 แนวต้านวันนี้: 1814/1822
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
ข่าวเด่น