สภาวะตลาดวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,336.00-1,348.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,000 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,050 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,030 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,100 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.36 น. ของวันที่ 20/02/61)
แนวโน้มวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561
สหรัฐจะพิจารณามาตรการควบคุมการนำเข้าเหล็กกล้าและอะลูมิเนียม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวว่า เขากำลังพิจารณาทางเลือกต่างๆ ซึ่งรวมถึงการกำหนดภาษีและโควต้า เพื่อจัดการกับการนำเข้าเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมที่เขากล่าวว่า ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตสหรัฐอย่างไม่เป็นธรรม ท่าทีกีดกันการค้าที่ชัดเจนขึ้นอาจจะสร้างแรงกดดันต่อดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนตัวลงจนกระตุ้นแรงซื้อทองคำเพิ่มเติม เห็นได้จากจีนประกาศสิทธิในการตอบโต้สหรัฐ หากมีการใช้มาตรการจัดเก็บภาษีดังกล่าวจริง อย่างไรก็ตามทองคำถูกดดันจากสกุลเงินยูโรที่อ่อนค่าลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป เมื่อความพยายามบรรลุข้อตกลงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมของเยอรมนียังคงเผชิญปัญหาหลังจากที่การเจรจาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับนโยบายด้านแรงงานและสาธารณสุขได้ นอกจากนี้ อิตาลีจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 4 มี.ค. ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองกดดันสกุลเงินยูโรและส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำ ทั้งนี้นักลงทุนจับตาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายที่คาดว่าจะกล่าวแถลงการณ์ในสัปดาห์นี้ ขณะที่แรงผลักดันต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐถูกหักล้างโดยปัจจัยลบหลายประการ ทั้งความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับยอดขาดดุลงบประมาณสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวสู่กว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2562 ท่ามกลางการใช้จ่ายของรัฐบาลที่พุ่งขึ้นและการลดภาษีนิติบุคคลครั้งใหญ่ ประกอบกับการออกตราสารหนี้สหรัฐที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น, การลดการเข้าซื้อพันธบัตรของเฟด และยอดขาดดุลงบประมาณสหรัฐที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งนักลงทุนจับตาการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งหากแสดงถึงอุปสงค์ของนักลงทุนที่ซบเซาลง ดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ซึ่งจะหนุนราคาทองคำเพิ่มเติม เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำสามารถผ่านระดับ 1,345 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ราคาทองคำจะขยับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,352 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับแนวรับอยู่ในโซน 1,326-1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,326-1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,345-1,352 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,326 (19,700บาท) 1,313 (19,500บาท) 1,300 (19,350บาท)
แนวต้าน 1,345 (20,050บาท) 1,352 (20,150บาท) 1,366 (20,350บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,326 (19,850บาท) 1,313 (19,650บาท) 1,300 (19,460บาท)
แนวต้าน 1,345 (20,140บาท) 1,352 (20,240บาท) 1,366 (20,450บาท)
ข่าวเด่น