ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวบวก (22/02/61)


 Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวบวกในช่วงเช้า นำโดยแรงซื้อเด่นใน PTT ภายหลังรายงานผลประกอบการสูงกว่าคาดถึง 20% โดยปรับตัวขึ้นกว่า 32 บาท (ส่งผลต่อ SET ประมาณ 9 จุด) อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายมีแรงขายทำกำไรเด่นในกลุ่มโรงไฟฟ้านำโดย GPSC, BGRIM, BCPG, GULF และมีแรงขายเด่นใน   CBG, MTLS และ IVL ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,801.1 จุด (+0.14 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 8.4 หมื่นล้านบาท (มี biglot IRPC มูลค่าสูงกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ที่ราคา 7.10 บาท ) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 4.3 หมื่นล้านบาท  
  นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยวันแรก ที่ 868  ล้านบาท (รวมขายสุทธิ 3.7 หมื่นล้านบาท) และเปิด Long SET50 index future ที่ 8,248 สัญญา  

Investment theme
ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 4 สะท้อนการกำลังซื้อของประเทศที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด สำหรับ SET มองแนวรับ 1,760-1,770 จุด   : เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP ของไตรมาส 4 ที่ต่ำกว่าคาด และหากวิเคราะห์รายละเอียดเชิงลึกพบว่าภาคเกษตรยังคงอ่อนแอ โดยการผลิตพลิกจาก 9.7% ในไตรมาสก่อนหน้ามาเป็น -1.3% ในขณะที่ดัชนีรายได้เกษตรกรติดลบสูงกว่า 7.0% ส่วนหนึ่งเกิดจากราคาสินค้าเกษตรหลักอย่าง ยางพารา, ปาล์มน้ำมัน ลดลงสูงกว่า 24% และ 41% ตามลำดับ  ส่งผลให้เรามองว่าความคาดหวังของการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศไทย อาจไม่ได้เร็วอย่างที่คาด โดยปัจจุบันคนไทยในภาคเกษตรมีสัดส่วนสูงกว่า 12 ล้านคน หรือคิดเป็น 32% ของการจ้างงานในประเทศไทย อาจได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ลดลง ส่งผลให้เรามองว่าภาพรวมการบริโภคอาจต่ำกว่าที่คาด
Investment theme:  สัปดาห์นี้เราคงแนะนำขายทำกำไรหุ้นบางส่วนโดยมองแนวต้านบริเวณ 1,820 จุด และมองว่า SET ไม่ควรปิดต่ำกว่า 1,760 ในวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์เพื่อรักษา Momentum บวกต่อในเดือนมีนาคม แนะทยอยสะสมเพื่อรับปันผล TISCO, LH, SPALI, IRPC

Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา – สอท.คาดยอดผลิตรถยนต์ปีนี้เพิ่มเป็น 2.12 ล้านคัน โดยเดือน ม.ค.โต 2.46% ที่ 8.2 หมื่นคัน / Dollar กลับมาแข็งค่าอีกครั้งที่ 90.12 / พาณิชย์เผยส่งออกเดือนม.ค.เติบโตสูงสุดในรอบ 62 เดือนที่ 17.6% / การประชุม Minute ออกมาในเชิงบวก ส่งสัญญาณพร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 

Stock pick : กลยุทธ์

  • แนะทยอยขาย กลุ่มโรงไฟฟ้า และ โรงกลั่น / รอซื้อกลุ่มปิโตร  โดยเรามองว่า 2  กลุ่มนี้ Valutaion สะท้อนการเติบโตในอนาคตไปพอสมควร และสำหรับโรงกลั่น คาดถูกกดดันจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน คาดผลประกอบการอ่อนตัว QoQ แนะทยอยขาย TOP , GPSC, GULF และทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัว BGRIM  28.50 +/- กลุ่มปิโตร IVL บริเวณ 50.0 บาท +/-
  • กลุ่มอาหาร เราให้ TU เป็น Toppick จากแรงกดดันของราคาทูน่าลดลง คาดผลประกอบการฟื้นตัว QoQ และเด่นใน 2Q61 แนะทยอยซื้อราคาเป้าหมาย 22.10 บาท/หุ้น ในขณะที่แนะชะลอการลงทุนใน CPF,CBG, GFPT คาดผลประกอบการ 1Q61 อ่อนตัว
  • กลุ่มค้าปลีก / ห้าง แนะรอซื้อเมื่ออ่อนตัว BJC, GLOBAL (คาดผลประกอบการฟื้นตัวใน 1Q61) ในขณะที่ถือ CPALL (คาดผลประกอบ 4Q60 ทำระดับสูงสุด) และถือ CPN (89.0 บาท)
  • กลุ่มขนส่ง- Logistic ขายเอาทุนคืน  WICE , PORT และรอขาย PSL 13.70 +/- และรอซื้อเมื่อหลังงบออก PRM (คาดผลประกอบการ 4Q60 อ่อนตัว งบออก 23 ก.พ.) แนะทยอยสะสม BTS
  • กลุ่มอสังหา แนะเลี่ยงการลงทุนใน SIRI, PACE, ANAN และรอซื้อเมื่ออ่อนตัวใน SPALI (มี Secured rev สูงกว่า 45%), LH (ซื้อเอาปันผล, ขายสินทรัพย์ช่วงกลางปี) และซื้อ GOLD
  • กลุ่มก่อสร้าง เก็งกำไร CK เมื่ออ่อนตัว 24.50+/- , เลี่ยงการลงทุนใน ITD  / STEC รอซื้อเมื่ออ่อนตัว  18.00 บาท

Technical View


ที่แนวรับ Ascending Triangle ควรเริ่ม Rebound : ดัชนีเปิดโดดจากแรงซื้อหุ้น PTT แต่ไม่ผ่านแนวต้านกรอบสามเหลี่ยมที่ 1815 จากนั้นแกว่ง Sideway Down ตลอดทั้งวัน โดยขณะนี้มองว่าที่แนวรับ Ascending Triangle บริเวณ 1795 ดัชนีควรเริ่มดีดตัวขึ้นเพื่อรักษาแนวโน้มการแกว่งในกรอบสามเหลี่ยมทและมีโอกาส Break 1815 เพื่อปิด Gap ที่ 1825 โดยระหว่างวันหากหลุด 1795 แนะนำ Lock Profit เพื่อดูแนวโน้มที่แนวรับจนกว่าจะหยุดลง 
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หากหลุด 1795 แนะนำ Lock Profit หรือหาก Rebound แนวต้านแนะนำขายทำกำไร  2) ไม่มีหุ้น: จังหวะทดสอบแนวรับ 1795  แล้วไม่หลุดอาจใช้เป็นโอกาสซื้อสะสมเพื่อเล่นรอบ
แนวรับ : 1795, 1785 แนวต้าน : 1810, 1815

Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : ยุโรปรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ 23 ก.พ. 
ปัจจัยในประเทศ : 
หุ้นเทคนิค:
IRPC (B 7.60-7.70, Tp 8.00//8.30, Cut 7.50)
PTTEP (B 113.50, Tp 118.00, Cut 112.00)


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ก.พ. 2561 เวลา : 10:44:12

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:08 pm