สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +0.14 จุด PTT แตกพาร์ช่วยประคองตลาดไม่ติดลบ

  SET แกว่งอิงแดนบวกในกรอบ 1797-1814 ซื้อขายหนาแน่น 8.4 หมื่นลบ. (มี Big Lot หุ้น IRPC 1.38 หมื่นลบ.) แม้ภาพรวมตลาดมีแรงขายกดดัน แต่หุ้น PTT +6.5% จากข่าวแตกพาร์ช่วยประคองตลาดไม่ให้ติดลบ (มีผลต่อ SET บวกราว 9 จุด) ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 869 ลบ. ยุติขาย 13 วัน และ Long S50 Futures 8,248 สัญญา 7 วัน

ทิศทางตลาดวันนี้ : อ่อนลง Bond Yield แตะ 2.95%, ดอลล์แข็งค่ากดดัน
  หุ้นโลกเมื่อวาน (21 ก.พ.) ส่วนใหญ่ปรับลง โดยดัชนี DJ ของสหรัฐฯ พลิกร่วง 166 จุด หลังจากที่บวกไปมากกว่า 300 จุดในช่วงแรกที่ได้แรงหนุนจากตัวเลข PMI เบื้องต้นในเดือน ก.พ. ของสหรัฐฯ ที่ขึ้นแตะระดับ 55.9 เป็นระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 2 ปี ทั้งนี้ตลาดกลับมาวิตก FED อาจขึ้นดบ.เร็วกว่าคาด หลังรายงานประชุม FED ครั้งก่อนบ่งชี้ว่า คณะกรรมการมองแนวโน้มการเติบโตศก.และเงินเฟ้อปรับตัวดีขึ้น ซึ่งสนับสนุนให้ FED ขึ้นดบ.ต่อไป ประกอบกับมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 5 ปี และ 7 ปีในช่วง 21-22 ก.พ.นี้ด้วย  มอง SET แกว่งในทิศทางอ่อนตัวลง นอกจากจะได้รับแรงกดดันจาก Bond Yield ที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 2.95% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 4 ปี และเงินดอลลาร์ฯ ที่ฟื้นตัวต่อเนื่องแล้ว (US Dollar Index กลับมายืน 90 จุด สูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์) งบของบจ.ไทยค่อนไปทางน่าผิดหวังด้วย อาจนำไปสู่แนวโน้มการปรับประมาณการกำไรลง แต่เชื่อยังมีเงินปันผลรองรับ ทำให้ตลาดไม่น่าปรับลงมากและเป็นจังหวะสะสม แนวรับ 1790+/- แนวต้าน 1815

กลยุทธ์การลงทุน : หาจังหวะทยอยสะสม-ซื้อคืน, Selective Buy 
  มองตลาดยังมีแนวโน้มแกว่งผันผวนเพื่อสร้างฐานอย่างน้อยจนถึงสิ้น ก.พ. มอง SET จะดูดีขึ้นหากปิดเหนือ 1810 ได้ และน่าจะยืนยันสิ้นสุดการพักฐานเมื่อปิดเหนือ 1820 ยังแนะนำหาจังหวะทยอยสะสม-ซื้อคืนช่วงอ่อนตัว เน้นหุ้นงบดี-ปันผลดี-มีสตอรี่ดี อย่างไรก็ดี หากภาวะตลาดผิดคาด ให้ใช้จุด Stop เมื่อ SET ปิดต่ำกว่า 1780

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick COM7 – คาดกำไร 4Q17F ที่จะประกาศวันนี้จะขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 179 ลบ. +22% YoY และ +19% QoQ, กำไรปี 18F คาดโตต่อ 39% อานิสงส์การขยายตัวของตลาดมือถือและสินค้าไอที, แผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และการตั้งทีมดูแลลูกค้าธุรกิจ รวมทั้งสัดส่วนการขายมือถือยี่ห้ออื่นๆ นอกจาก iPhone เพิ่มขึ้น ช่วยหนุนอัตรากำไรสูงขึ้น, เป้าพื้นฐาน 20.5 บ. / ไม่มีหุ้นไทยตัวใดเข้า-ออกการทบทวนดัชนี MSCI รอบนี้ (มีผล 1 มี.ค.) / หุ้นงบดี ราคามี upside 10% ขึ้นไป ชอบ ASAP, BEAUTY, BR, COM7, HANA, HARN, IHL, JWD, ORI, ROJNA, SEAFCO / หุ้นปันผลดี (Remaining Div. Yield > 3%) ชอบ AP, ASK, ASP, BPP, BR, FTE, GLOW, HARN, IRPC, KKP, KTB, NYT, ROJNA, SIRI, SPRC, TMT, UVAN ส่วนหุ้นที่อยู่นอกเหนือจากการวิเคราะห์ของเราและตลาด แต่การประเมินเบื้องต้นของเราคาดจะเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลดี (Div. Yield >= 5%) ASIMAR, ESTAR, MSC, PDI, PL, PRIN / หุ้นอิงการลงทุนภาครัฐ-เร่งผลักดัน EEC และลงทุนเอกชนฟื้นตัวตาม – นิคม AMATA, ROJNA, WHA รับเหมา – CK, STEC, UNIQ, SEAFCO / แบงก์ – BBL, KBANK / หุ้นอิงศก.และการบริโภคในปท. รับการเลือกตั้ง – BEAUTY, COM7, PLANB, VGI / หุ้นมีอนาคต กำไรเติบโตสูง – ASAP, JWD, MINT, ORI, PRM, TPIPP
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ COM7 (เป้าสั้น 17.5 บ.), PDI (24.1 บ.) / ถือ HANA (46.5 บ.), SEAFCO (10.3 บ.) / ถึงเป้าขายทำกำไร VGI (+7.2%) / ขายตัดขาดทุน ROJNA (-4.6%)
• หุ้นเด่น ก.พ. (Smart Tactics) COM7, NYT, PDI, PLANB, ROJNA, SIRI, TPIPP

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research