สรุปแนวโน้ม SET เช้านี้นักวิเคราะห์คาดปรับตัวขึ้นต่อจากวันนี้ ตามตลาดหุ้นในต่างประเทศ หลังจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลประเด็นผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่เริ่มชะลอตัวลง
*ตลาดหุ้นไทย
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET Index)วานนี้(26ก.พ.)เปิดตลาดในแดนบวกก่อนปรับตัวขึ้นตลอดทั้งวัน หลังจากได้รับอานิสงส์ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวขึ้นสูง ก่อนมาปิดตลาดที่ระดับ 1,834.18 จุด เพิ่มขึ้น 26.12 จุด หรือ 1.44%
ดัชนี SET50 ปิดตลาดที่ระดับ 1,206.31 จุด เพิ่มขึ้น 22.84 จุด หรือ 1.93%
ดัชนี SET100 ปิดตลาดที่ระดับ 2,677.39 จุด เพิ่มขึ้น 46.88 จุด หรือ 1.78%
ดัชนี mai ปิดตลาดที่ระดับ 510.18 จุด ลดลง 4.81 จุด หรือ 0.93%
*ตลาดหุ้นต่างประเทศ-น้ำมันดิบ
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 25,709.27 จุด เพิ่มขึ้น 399.28 จุด หรือ 1.58%
ดัชนี S&P ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 2,779.60 จุด เพิ่มขึ้น 32.30 จุด หรือ 1.18%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 7,421.46 จุด เพิ่มขึ้น 84.07 จุด หรือ 1.15%
มาจากนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และการเงิน ส่งผลให้ดัชนีฯแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯกำหนดไถ่ถอน 10 ปีลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2.9% และเป็นการลดลง 3 วันทำการติดต่อกัน
ราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนเมษายนที่ตลาดนิวยอร์ก ปิดตลาดที่ระดับ 63.91 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 36 เซ็นต์ หรือ 0.57%
*มุมมองนักวิเคราะห์
บล.เคทีบี มองดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอ่อนตัวลง สะท้อนถึงความกังวลด้านดอกเบี้ยลดลง อย่างไรก็ตามคืนนี้ประธานเฟดคนใหม่จะแถลงนโยบายการเงินและแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาฯ มีผลต่อทิศทางดอกเบี้ยและตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ของไทยด้วย
บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดหุ้นไทยสามารถแกว่งตัวบวกได้ต่อเนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคที่ดีขึ้นรวมถึงบรรยากาศการลงทุนใน ภาพรวมที่ยังดี อย่างไรก็ตามเนื่องจากตลาดปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงและ เร็วในช่วง 2 วันล่าสุดทำให้ระยะสั้นมองว่าน่าจะยังไม่สามารถทะลุผ่านจุด สูงเดิมบริเวณ 1850 จุดได้ รวมถึงยังมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคืนนี้คือการแถลงต่อหน้าสภาคองเกรสของนายเจอโรม พาวเวลครั้งแรกซึ่งจะมีผล ต่อทิศทาง Bond Yield
บล.ไอร่า คาดตลาดยังมีโอกาสปรับขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ หลัง Bond Yield สหรัฐฯ ชะลอตัวต่อเนื่อง และมีความผันผวนลดลง พร้อมอยู่ระหว่างรอถ้อยแถลงของประธานเฟดคนใหม่ต่อสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา ในวันนี้ และ 1 มี.ค. 61 เพื่อหาสัญญาณทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ คาดการปรับขึ้นมีแนวโน้มแบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เฟดจะมีการประชุมวันที่ 20 – 21 มี.ค. 61 โดยคาดในครั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ข่าวเด่น