Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับขึ้นเด่น โดยมีแรงซื้ออย่างมีนัยยะใน PTT group นำโดย PTT เดินหน้าทำ All time high โดยปรับตัวขึ้นกว่า 28 บาท และหากนับรวม PTT group (PTT, PTTGC, PTTEP, IRPC, TOP, GPSC) ส่งผลบวกต่อ SET สูงกว่า 10 จุด ในขณะที่เกิด Technical rebound ใน BJC และกลุ่มโรงไฟฟ้าต่อเนื่องนำโดย GPSC, GULF, BCPG ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,834 จุด (+26.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวานที่ผ่านมาที่ 5.8 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยที่ 115 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบันซื้อ สูงกว่า 4,244 ล้านบาท) แต่กลับมาเปิด Short SET50 index future ครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 6,937 สัญญา
Investment theme
มีนาคม61 คาดหุ้นกระจุกตัวขึ้นคล้าย 4Q60 : ในเดือนมีนาคม เรามีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้น และคาด SET มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,850 จุด และมองว่าภาพรวมการปรับตัวขึ้นของหุ้นจะมีลักษณะคล้ายกับช่วงไตรมาสสี่ที่ผ่านมา กล่าวคือเป็นการกระจุกตัวขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่บางกลุ่ม สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากเราเชื่อว่ามีโอกาสที่เดือนมีนาคมนักลงทุนต่างประเทศ จะลดสัดส่วนการขายและมีโอกาสพลิกกลับมาเป็นซื้อสุทธิ (ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศเปิดสถานะ เปิด Long SET50 index future สูงกว่า 45,000 สัญญา ) และหากอิงจากข้อมูลในอดีต พบว่าภายหลังจากเกิด Subprime crisis พบว่า นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยในเดือนมีนาคมติดต่อกัน 9 ปี เฉลี่ยสูงกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท (นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 840 ล้านบาท) ส่งผลให้ SET ปรับตัวขึ้นเฉลี่ยประมาณ 2.6% โดยคาดมุมมองเดียวกันกับปีนี้ โดยมองว่าในเดือนมีนาคมนี้ ค่าเงินบาทยังคงอยู่ในทิศทางแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์บริเวณ 31.0-31.50 บาท (จับตาการรายงานตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัด ในวันที่ 28 ก.พ.นี้)
Investment Theme: คาดกลุ่ม PTT group นำโดย PTT, PTTEP และ IRPC ยังคงอยู่ในทิศทาง sideway up ในขณะที่แนะสะสมหุ้นปันผลอย่าง TISCO, LH และกลุ่มค้าปลีกที่มี Upside อย่าง BJC
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – พล.อ.ฉัตรชัย รองนายกระบุการเจรจาการแก้ปัญหาประมง (IUU) มีสัญญาณดีขึ้น โดยปัจจุบันดำเนินคดีผู้ทำผิดไปแล้วกว่า 80% /Brent ปรับตัวขึ้นต่อที่ 67.2 เหรียญ ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาประท้วงในลิเบีย ในขณะที่ซาอุตรึงกำลังการผลิต
บทวิเคราะห์วันนี้ : DDD,CPF,GULF / ABM เข้าซื้อขายในตลาดวันแรก
Stock pick : LH
LH : ทยอยสะสม 12.40 บาท/หุ้น
คาดผลประกอบการจากการดำเนินงาน 4Q60 ที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้เติบโต YoY โดยเราประเมินกำไรปี 2560 ที่ 1.02 หมื่นล้านบาท เติบโต 23.5% ในขณะที่คาดกำไรจากการดำเนินงานปี 2561 เติบโต 9% จากเป้า Presale ที่เติบโต 19%YoY และการรับรู้รายได้ Recurring income จากการเปิด Terminal pattaya ในปีนี้ และในช่วง 3Q61 คาดบริษัทมีโอกาสรับรู้กำไรพิเศษจากการขายโครงการ Service apartment ที่สหรัฐ
โดยเรามองว่า LH จะเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่คาด Outperform ในเดือนมีนาคม-เมษายน (อ้างอิงจากสถิติย้อนหลัง 5 ปี ราคาหุ้น LH มักปรับตัวขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศในขณะที่คาดปันผลในครึ่งปีหลังสูงกว่า 0.40 บาท/หุ้น คิดเป็น yield 3.5%
Trading idea – – แนะ Switch (ขายทำกำไร) ใน SPA เข้ามาลงทุนใน JUBILE / ทยอยสะสม SPCG (เอาปันผล) / ATP30 ทยอยสะสม / ชะลอการลงทุนในหุ้นกลุ่ม TV digital / ทยอยสะสม BCH ภายหลังประกาศงบ โดยมองว่าทำได้ดีในส่วนประกันสังคม เติบโตกว่า 35%YoY
Technical View
ปิด Gap และขึ้นทดสอบ All Time High: แรงซื้อจากหุ้น Big Cap. หลากหลายกลุ่มเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ทำให้ดัชนี Break กรอบ Ascending Triangle และขึ้นปิด Gap 1825 ได้สำเร็จ พร้อมเกิดสัญญาณซื้อใน MACD อีกครั้ง ทำให้คาดว่าจะแกว่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ตามกรอบ Uptrend Channel โดยมีแนวต้านที่ 1840 และ 1848 (All Time High) ยังมองว่าจังหวะอ่อนตัวระหว่างวันยังเป็นโอกาสสะสมหุ้นที่แนวรับเพื่อลุ้นการ Break All Time High หรือซื้อเพื่อเล่นเก็งกำไรระยะสั้นไปที่แนวต้าน 1848
กลยุทธ์การลงทุน 1) ลงทุนสั้น หากดีดไม่ผ่าน 1848 แนะนำขายทำกำไร ลงทุนยาว ถือหุ้นต่อลุ้น Break High 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวมองเป็นโอกาสสะสมหุ้นตามแนวรับ ทั้งเพื่อถือลงทุนและ Trading
แนวรับ : 1825, 1820 แนวต้าน : 1840, 1848
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 27 ก.พ. Powell แถลง / จีนรายงานตัวเลข PMI
ปัจจัยในประเทศ : สนช.พิจารณา พ.ร.ป. การเลือกตั้งส.ส. และที่มา ส.ว.
หุ้นเทคนิค:
AOT (B 69.50-70.50, Tp 74.00//77.00, Cut 69.00)
PTTEP (B 116.00, Tp 122.00, Cut 115.00)
ข่าวเด่น