คำแนะนำ
เก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยให้ทยอยขายทำกำไรจนกว่าราคาจะทะลุด้านบน 1,324-1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปิดสถานะขายหากราคายังยืนเหนือโซน 1,313-1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,309 1,298 1,286
แนวต้าน 1,324 1,333 1,345
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 14.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ส่งสัญญาณในระหว่างการตอบข้อซักถามของคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ หลังจากสหรัฐดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐทางการคลังทั้งการปรับลดภาษีและการเพิ่มใช้จ่ายของรัฐบาล ทั้งนี้ถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 33% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้และการคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้น ส่วนดอลลาร์แข็งค่าและเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยให้ปรับตัวลดลงราว 1% ในวันอังคาร อย่างไรก็ตามดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวลดลง 299.24 จุดจากข่าวดังกล่าวเช่นกันส่งผลให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเข้ามาบ้าง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI เขตชิคาโก, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายและประมาณการครั้งที่ 2 จีดีพีไตรมาส 4/2017 ของสหรัฐเพื่อเป็นข้อมูลที่ช่วยยืนยันถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากการอ่อนตัวลงของราคาทองคำยังสามารถรักษาระดับเหนือแนวรับได้ราคาทองคำยังมีลุ้นดีดขึ้นทดสอบแนวต้าน แต่หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาสลับออกมา และอาจทำให้ราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 1,313-1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อสร้างฐานราคา
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
เน้นการลงทุนระยะสั้นโดยเสี่ยงซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,313-1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,324-1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านได้สามารถถือต่อ
ข่าวเด่น