Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET ผันผวนสูง โดยมีแรงซื้อทำกำไรเด่นภายหลังนายกประกาศวันเลือกตั้งยังอยู่ในช่วงเดือนก.พ. ส่งผลให้มีแรงเด่นในกลุ่มพลังงานนำโดย PTT และหุ้นใหญ่อย่าง SCC, PTTGC และกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK ,KTB,BBL อย่างไรก็ตามมีแรงขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,850 อย่างมาก ซึ่งขายเด่นในกลุ่มค้าปลีกอย่าง CPALL, CPN, MAKRO และกลุ่มโรงไฟฟ้าเกิดแรงขายทำกำไรบางส่วนนำโดย EA, TPIPP  ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,830 จุด (-3.7 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 1.02แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวานที่ผ่านมาที่ 7.2 หมื่นล้านบาท 
  นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยที่ 426 ล้านบาท และเปิด Short  SET50 index future ที่ 8,361 สัญญา     

Investment theme
  กุมภาพันธ์ผันผวน , คาดมีนาคม Sideway up : สถิติย้อนหลัง 9 ปี (2009-2017) ระบุเดือนมีนาคมตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 2.6% ซึ่งส่วนมากถูกขับเคลื่อนโดยการพลิกกลับมาซื้อของนักลงทุนต่างชาติ (เฉลี่ยสูงกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท ) โดยเรามีมุมมองสอดคล้องกับสถิติในอดีต กล่าวคือ คาด SET ปรับตัว Sideway up ในเดือนมีนาคม โดยมองว่านักลงทุนต่างชาติมีโอกาสชะลอแรงขาย และพลิกกลับมาซื้อสุทธิ ในขณะที่เรามองว่าหุ้นใหญ่จะยัง Perform เมื่อเทียบกับหุ้น SMID cap  และสำหรับการแถลงครั้งแรกของประธานเฟดคนใหม่อย่างคุณ Powell ส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดทุนอีกครั้ง ล่าสุด Dollar index ปรับตัวขึ้นที่ 90.4, Bond yield 10 ปี ปรับตัวขึ้นบริเวณ 2.89% ภายหลังคุณ Powell กล่าวเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในทิศทางที่ดี และมองว่าในสถานการณ์ตลาดแรงงานเช่นนี้ มีโอกาสที่ค่าแรงจะปรับตัวขึ้น ในขณะที่ระบุพิจารณาการปรับลดขนาดงบดุลสหรัฐอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามยังทิ้งท้ายถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเรามองว่าตลาดทุนได้ตอบรับการแถลงครั้งนี้ไปแล้วบางส่วน อย่างไรก็ตามคงคำแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 20% 
  Investment Theme: สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวบริเวณ 1,820 จุด คงคำแนะนำทยอยสะสม PTT group อย่าง PTT, PTTEP และ IRPC ในขณะที่แนะสะสมหุ้นปันผลอย่าง TISCO, LH และกลุ่มค้าปลีกที่มี Upside อย่าง BJC

Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – นายกแถลงเลือกตั้ง ก.พ.62 / คมนาคมแถลงเตรียมเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน  / Brent ปรับตัวลงที่ 66.5 เหรียญ/บาร์เรล 
บทวิเคราะห์วันนี้ :  QH (ปันผลสูงกว่าคาดมาก) / AP ตามคาด

Stock pick : BJC

BJC : ทยอยสะสม 68.00 บาท/หุ้น   

• บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 4Q60 สูงกว่าที่เราและตลาดคาดที่ 1,862 ล้านบาท (+34%QoQ, +80%YoY) และหากตัดกำไรพิเศษ พบว่ากำไรจากการดำเนินงานก็อยู่ในระดับสูงเช่นกันที่ 1,723 ล้านบาท เติบโต 24%QoQ, 66%YoY สนับสนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี และยอดขายเฉลี่ยต่อสาขา BIGC เติบโต 3.8% ส่งผลให้กำไรเติบโต 68% และการเปิดสาขาเพิ่ม 5 สาขา
• คาดกำไรปี 2561 เติบโตเด่นกว่า 35% ที่ 6,722 ล้านบาท จากการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นในไตรมาสสี่ที่ผ่านมา และเพิ่มอีกในช่วงกลางปี รวม 700 ตัน เพิ่มขึ้น 26% เป็น 3,435 ตันต่อวัน ในขณะที่รับรู้รายได้จากการเปิด 9 สาขาใหม่ในปี 2560 และคาดได้ประโยชน์จากภาษีลดลง คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเหมาะสม 68.0 บาท/หุ้น

Trading idea – – ทยอยสะสม HMPRO (15.40 บาท) / ทยอยสะสม ERW งบดีกว่าคาด (9.00 บาท)  ให้เป็น Toppick กลุ่มโรงแรม

Technical View

False Break แต่การพักตัวไม่ควรหลุดแนวรับ : ช่วงเช้าถึงบ่ายดัชนีปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อหุ้น Big Cap. หลากหลายกลุ่มเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ทำให้ดัชนี Break แนวต้าน All Time High ที่ 1848 ก่อนที่จะเกิดแรงขายอย่างรุนแรงในช่วงบ่าย 3 ทำให้ดัชนีเกิดเป็น Flase Break ระยะสั้นถึงกลางหากพักตัวไม่ควรหลุดแนวรับ 1822 และ 1815 คาดยังคงลุ้นการ Break High 1848 อีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้ MACD ยังส่งสัญญาณบวก  มองว่าจะหวะอ่อนตัวยังเป็นโอกาสสะสมตามแนวรับ กลยุทธ์การลงทุน 1) ลงทุนสั้น หากดีดไม่ผ่านแนวต้าน แนะนำขายทำกำไร ลงทุนกลาง หลุด 1822 Lock Profit   2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวมองเป็นโอกาสสะสมหุ้นตามแนวรับ ทั้งเพื่อถือลงทุนและ Trading
  แนวรับ : 1822, 1815 แนวต้าน : 1837, 1843

Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 27 ก.พ. Powell แถลง / จีนรายงานตัวเลข PMI
ปัจจัยในประเทศ : สนช.พิจารณา พ.ร.ป. การเลือกตั้งส.ส. และที่มา ส.ว.
หุ้นเทคนิค:
KBANK (B 228.00-230.00, Tp 240.00//245.00, Cut 226.00)
SCC (B 490.00, Tp 506.00, Cut 484.00)