|
|
|
|
|
|
Market Summary 28/02/2018
Close
|
1,830.13
|
Volume
|
Bt76,936M
|
Change
|
-0.26
|
P/E
|
19.04
|
%Change
|
-0.01%
|
P/BV
|
2.15
|
หุ้นแนะนำพิเศษ
QH Analyst Meeting (ราคาปิด 3 Bloomberg Consensus 3.52)
- ปี 60 มีกำไรสุทธิ 3,462 ลบ. + 12% แม้รายได้รวม 1.8 หมื่นลบ. -6% แต่มีรายการพิเศษ 2 รายการได้แก่ กำไรทางบัญชีจากสัดส่วนถือหุ้นใน LHFG ที่ลดจาก21.3% เหลือ 13.7% จำนวน 712 ลบ. และคชจ.สำรองด้อยค่าโครงการและค่าเผื่อเสียหายจากคดีฟ้องร้อง 707 ลบ. ขณะที่อัตราส่วนคชจ.ขายและบริหารต่อรายได้รวมลดเหลือ 16% จาก 18% ในปี 59 ทำให้มีกำไรปกติ 3,467 ลบ. ใกล้เคียงกำไรสุทธิ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังหุ้นละ 0.13 บาท yield 4.3% XD 26 เม.ย. วันจ่าย 15 พ.ค.
- ปี 61 มีเป้ายอดขาย presale 15.5 หมื่นลบ. +11% จากแผนเปิดโครงการใหม่ 15 โครงการมูลค่ารวม 1.3 หมื่นลบ. ในกทม.แทบทั้งหมด มีโครงการดีในตจว.ที่จ.เชียงใหม่เป็นิ บ้านหรู เป้ารายได้อยู่ที่ราว 1.75 หมื่นลบ. +10% ปีนี้มีกำหนดโอนคอนโด 4 โครงการ backlog ต้นปีอยู่ที่ 4.2 พันลบ. Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 เติบโตราว 11%
- เราชอบที่ QH มี yield สูงเฉลี่ยปีละ 6-7% ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER 10 เท่าต่ำกว่า PER ที่ระดับ 18 เท่า แนะนำลงทุนระยะยาวรับเงินปันผล
Market View : อ่อนตัวตามเพื่อนบ้าน
หุ้นแนะนำพิเศษ : QH
หุ้นมีข่าว : CPN SKE TRUE CK BCP PACE
Technical Insight : SGP APCS
ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ เคลื่อนไหว Sideway ทั้งแดนลบและบวก หลังปัจจัยลบและบวกคละเคล้าทั้งความกังวลจาการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมันที่อ่อนตัว มาหักล้างแนวโน้ม ศก.ไทยที่มีโอกาสเติบโตดี โดยรวมกลุ่ม COM หนุนแรก หักล้างโดย ENERG ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,830.13 จุด (-0.26 จุด) Volume 7.69 หมื่นลบ. โดย Foreign Net
-3,941.47 ลบ. TFEX Net -8,323 สัญญา ตราสารหนี้ -293.85 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+สหรัฐเผย GDP ขยายตัว 2.5% ใน Q4/60 และผู้ขอสวัสดิการสหรัฐลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 210,000 รายซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 นอกจากนี้ดัชนีภาคการผลิตของ ISM พุ่งขึ้นสู่ระดับ 60.8
+ไฉซินเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้นแตะ 51.6 สูงสุดในรอบ 6 เดือน
+สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ม.ค.61 ขยายตัว 3.44% ตามส่งออกฟื้น-กำลังซื้อในปท.มีทิศทางดี
+ ธปท.เผย ม.ค.61 ศก.โตต่อเนื่องตามส่งออก-ท่องเที่ยว-บริโภคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐพลิกกลับมาขยายตัว การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวเล็กน้อย
-ดาวโจนส์ปิดร่วงหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในสัปดาห์หน้า
-น้ำมันดิบปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้นในสหรัฐ EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
-ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายร่วงลง 4.7% ซึ่งเป็นการดิ่งลงหนักที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี
+/- Fund Flow ต่างชาติขาย 3.9 พันล้านบาท (MTD ขาย 4.14 หมื่นล้านบาท) ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าสู่ 31.45 บาท/USD
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้จะถูกกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับลงจากความกังวลต่อนโยบายที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม และราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงจากความกังวลสต๊อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาด รวมทั้ง Fund Flow ที่ยังผันผวน ดังนั้นคาด SET มีโอกาสปรับตัวลงในกรอบ 1,810-1,830 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- UVAN น้ำมันปาล์มปรับตัวขึ้น 4%MTD สู่ 2,571 ริงกิต/ตัน
- หุ้นปันผลเด่น ASEFA BAFS CPT CRD FTE GLOW KKP NYT PSH PTTGC SCB SF SIS SMPC SPRC TK TOP WHAUP TISCO QH
- หุ้น Turnaround ใน 4Q60 PSL AFC PJW U GRAND INOX PTTEP ASN SAMCO IRCP DTC BLA TRITN CGD TVD TM VARO TRT CI THAI UREKA MATI OHTL
หุ้นมีข่าว
- CPN Analyst Meeting
- กำไรสุทธิปี 60 เท่ากับ 1.36 หมื่นลบ. +48% หากไม่รวมรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำใน Q3 ในการได้รับค่าสินไหมทดแทน 3.5 พันล้านบาท และรายได้สุทธิจากการแปลง CPNRF เป็น CPNREIT และการให้เช่าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช (บางส่วน) และโรงแรมฮิลตัน พัทยาจำนวน 175 ล้านบาท จะมีกำไรปกติ 9,893 ลบ.+7%
- ปี 61 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% มีปัจจัยขับเคลื่อนจากสาขาใหม่ที่เปิดในปี 60 (นครราชสีมาและมหาชัย) สาขาใหม่ที่เปิดในปี 61(ภูเก็ต2 สาขาใหม่ 1 แห่ง (ประกาศใน Q2) และ I-City สาขาในตปท.สาขาแรกที่มาเลเซีย) รวมทั้งรายได้จากการโอนคอนโดฯ 3 แห่ง (ระยอง เชียงใหม่ขอนแก่น)มูลค่ารวม 2.8 พันลบ.มียอดจอง 100% และอัตราเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นหลังปรับปรุงพื้นที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์แล้วเสร็จ ฐานรายได้ที่สูงจะช่วยชดเชย GP ที่มีแนวโน้มลดลง พร้อมทั้งมีแผนเปิดตัวคอนโดฯ และบ้านเดี่ยวในช่วง Q3 โอนปี 62
- Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 ราว 1.24 หมื่นลบ. +26% จากกำไรปกติในปี 60 เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อแผนงานในอนาคตที่หนุนศักยภาพในการเติบโตของรายได้และผลการดำเนินงาน
- SKE Analyst Meeting
- กำไรสุทธิปี 60 เท่ากับ 73.9 ลบ. -42%YoY เนื่องจากรายได้การให้บริการในปี 60 ลดลง 19.5%YoY เหลือ 310 ลบ. มีคชจ.บริหารเพิ่มขึ้นจากการจ้างพนักงานเพิ่ม การปรับขึ้นเงินเดือน ย้ายสำนักงาน รวมถึงคชจ.ในการเตรียมความพร้อมเข้าตลท. ทำให้อัตรากำไรสุทธิปี60 ลดลงเหลือ 22% จาก 31% ในปีก่อน
- ปี 61 ผบห. ตั้งเป้าปริมาณการขาย NGV เพิ่มขึ้นเป็น 630 ตัน/วัน มีปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของปริมาณการขนส่ง และการปิดซ่อมสถานีอัดก๊าซของปตท.ที่ปทุมธานีทำให้สถานีอัดก๊าซของบริษัทที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้รับประโยชน์โดยตรง คาดรายได้จะกลับมาใกล้เคียงกับปี 59 ที่ 414 ลบ. และคาดว่าจะรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่คือโครงการผลิตและจำหน่ายก๊าซไบโอมีเทนอัด(CBG)ในช่วงครึ่งปีหลัง
- ปี 62 คาดจะเริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าชีวมวล(CODช่วงกลางปี 62) ราว 140 ลบ.ของบริษัทแม่กระทิงพาวเวอร์(SKEถือหุ้น80%) มีกำลังการผลิต 9.9MW มีสัญญาขายไฟ 8MW ระยะเวลา 20ปีให้กับกฟภ. ใช้เงินลงทุนรวม 850 ลบ. ซึ่งมีข้อตกลงการซื้อขายวัตถุดิบกับบริษัท บีพี 15 ผู้ผลิตและจำหน่ายชีวมวลอัดเม็ดรายใหญ่ในภาคเหนือ และบริษัทแพร่กรีนพาวเวอร์เป็นตัวแทนรับซื้อเชื้อเพลิงชีวมวลจากเกษตรกร
- ความเห็น กำไรปี 61 มีโอกาสพลิกเติบโต และปี 62 รายได้มีโอกาสเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเป็นพัฒนาการที่ดีที่น่าติดตาม แนะนำ ถือ
- TRUE รายงานผลการดำเนินงานในช่วง 4Q60 พลิกมีกำไร 5.4 พันลบ.จากขาดทุน 1.66 พันลบ.ใน 4Q59 สำหรับปี 60 พลิกมีกำไร 2.32 พันลบ. จากขาดทุน 2.81 พันลบ.ในปี 59 หากไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวที่เป็นกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัล (DIF) บริษัทจะมีผลขาดทุน 4.2 พันลบ. ลดลง 50% บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.031บาท กำหนด XD 14 มี.ค. วันจ่าย 25 พ.ค.
- CK รายงานกำไรปี 60 ที่ 1.81 พันล้านบาทลดลง 10%YoY เนื่องจากรายได้ปรับตัวลง 21% จากปี 59 เนื่องจากไม่มีการรับรู้งานก่อสร้างส่วนเพิ่มของไซยะบุรี ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้น 0.8% สู่ 7.9% เนื่องจากงานส่วนเพิ่มฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่างานก่อสร้างหลัก ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวขึ้น 20% เนื่องจากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น รวมถึงการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญของกิจการร่วมค้า
- BCP รายงานกำไรปี 60 ที่ 5.77 พันล้านบาท เติบโต 21%YoY โดยผลประกอบการธุรกิจโรงกลั่นเติบโตตามค่าการกลั่นที่ปรับตัวขึ้นรวมถึงมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบ ด้านผลประกอบการธุรกิจผลิตไฟฟ้าปรับตัวดีขึ้นตามการรับรู้กำลังการผลิตใหม่จากโครงการ Nikaho และ Nagi ที่ประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งมีการขยายการลงทุนไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ฟิลลิปปินส์ และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่อินโดนีเซีย อย่างไรก็ตามผลประกอบการของสถานีจำหน่ายน้ำมันอ่อนตัวลงตามค่าการตลาดที่ลดลงจากการแข่งขันที่สูงขึ้น แม้ว่าปริมาณจำหน่ายโดยรวมจะปรับตัวขึ้น
- PACE แจ้งปี 60 พลิกมีกำไรสุทธิ 171 ลบ.เทียบกับขาดทุน 2,326 ลบ.ในปี 59 เนื่องจากมีรายได้จากธุรกิจอสังหาฯรวม 5,924 ลบ. +331% จากการโอนห้องพักในโครงการมหานครจำนวน 94 ห้องและรายได้จากการโอนวิลล่าตากอากาศในโครงการมหาสมุทรจำนวน 2 วิลล่า (GP 25%) ส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มดีนแอนด์เดลูก้าจำนวน 3,124 ลบ.-3% (GP 47%) ทั้งนี้มติอนุมัติการเข้าลงทุนของผู้ร่วมลงทุน 2 รายนั้น ที่ปรึกษาการเงินอิสระแห่งที่สองประเมินว่ามีมูลค่ายุติธรรมจำนวน 6,487 ลบ. และบริษัทได้บันทึกเงินลงทุนจำนวนดังกล่าวในงบแสดงฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 31 ธ.ค. 60 และรับรู้ผลกระทบจากการสูญเสียการควบคุมในบริษัทย่อยในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. จำนวน 7,113 ลบ. ทั้งนี้ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบกำไรขาดทุนเนื่องจากความไม่แน่นอนอย่างเป็นสาระสำคัญของประมาณการรายได้ของจุดชมวิว และแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขต่องบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2560 เนื่องจากมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถหาหลักฐานการสอบบัญชีที่เหมาะสมเพียงพอเพื่อเป็นเกณฑ์ในการแสดงความเห็นต่อรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเกี่ยวกับประมาณการรายได้ของจุดชมวิวจากการก่อสร้างที่ยังไม่แล้วเสร็จจึงไม่มีผลประกอบการจริงเพื่อเปรียบเทียบและเป็นธุรกิจใหม่ในตลาดของไทย
- ORI แจ้งกำไรปี 60 เท่ากับ 2,020 ลบ. + 217% ประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.55 บาท XD 8 พ.ค. วันจ่าย 25 พ.ค. พร้อมเพิ่มทุนรองรับ ESOP จำนวน 8 ล้านหน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1:1 ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 19.098 บาท
- (+)SSP เข้าลงทุนทำโซลาร์ลาร์รูฟท็อปบนหลังคา 5 สาขาของ"ดูโฮม"ขนาดรวม 3 MW
- ASIMAR และบ.ย่อยปี 60 กำไร 81.57 ลบ. เทียบกับปี 59 กำไรที่ 48.37 ลบ. +67%YoY
- KTB ประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.7645 บาท yield 3.8% XD 7 พ.ค. วันจ่าย 18 พ.ค.
|
บันทึกโดย : วันที่ :
02 มี.ค. 2561 เวลา : 10:07:09
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น