Market summary

  เมื่อวันพุธที่ผ่านมา SET ผันผวนและมีแรงขายช่วงปิดตลาด โดยภาพรวมตลอดทั้งวัน แม้จะมีแรงขายหลักในกลุ่มโรงไฟฟ้า (BCPG, GPSC) และกลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP) แต่ก็ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, BEAUTY, COM7) และ ธนาคาร (BAY, BBL) ช่วยพยุงตลาดไว้ แต่อย่างไรก็ดีช่วงปิดตลาด (ATC) มีแรงขายกดดัชนีย่อราว 6 จุด โดยคาดมาจากการปรับพอร์ทของ MSCI ส่งผลให้ ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,830 จุด (-0.26 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.69 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวานที่ผ่านมาที่ 1.02 แสนล้านบาท
  นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 3,941 ล้านบาท และเปิด Short  SET50 index future ที่ 8,323 สัญญา  

 Investment theme
  คาดมีนาคมแกว่งขึ้นต่อ แต่ต้อง Selective Buy มากขึ้น : ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับช่วงการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 4Q60 ซึ่งโดยสรุปพบว่ากำไรสุทธิ 4Q60 ของบริษัทจดทะเบียนใน SET และ MAI รวม 631 บริษัท มีกำไรสุทธิทั้งหมดที่ 249,553 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น +22%YoY และ +18%QoQ ซึ่งกำไรส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นมาจากกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ส่วนในด้านกำไรตลาด (Market EPS) พบว่าล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 110.6 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย +0.47% จากต้นปี สำหรับภาพรวมการลงทุนในเดือนมีนาคม เรายังคงคาด SET มีโอกาสแกว่งขึ้นต่อ ขานรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่มีสัญญาณการฟื้นตัวได้ดี รวมถึงความคาดหวังเชิงบวกต่อการเลือกตั้งที่คาดจะยังคงอยู่ในกรอบเดิม (ราว กพ. 2562) โดยระยะสั้นคงต้องติดตาม การพิจารณา พ.ร.ป การเลือกตั้ง สส. และที่มา สว. ฉบับแก้ไข ซึ่งหากแล้วเสร็จในช่วงเดือน มีนาคม นี้ ก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อลงนามในช่วง 3 เดือน และจะได้กรอบที่ชัดเจนในช่วงเดือน มิถุนายน ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามกรอบระยะเวลาเดิม คาดจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นต่อการลงทุนจากนักลงทุนไทย และต่างชาติปรับตัวสูงขึ้น 
  Investment Theme: ท่ามกลางตลาดที่แกว่งผันผวน แนะกลยุทธ์ Selective Buy เน้นกลุ่ม Big Caps ที่มีพื้นฐานดี เช่น BJC, CPALL, IRPC, ADVANC, TISCO, BH, ERW, IVL, BGRIM, LH เป็นต้น 

Big issue 
  เมื่อคืนที่ผ่านมา – สหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอลูมิเนียม 10% ในสัปดาห์หน้า / LIBOR 3 เดือน ปรับตัวขึ้นแรงทะลุ 2%
  บทวิเคราะห์วันนี้ :  LH ผลประกอบการใกล้เคียงคาด / TTCL กำไรน่าผิดหวัง / SYNTEC กำไร 4Q60 ยังเด่น / AH กำไร 4Q60 เด่น

Stock Pick : AH
AH : ปรับคำแนะนำเป็นซื้อ ปรับราคาเป้าหมายเป็น 39.00 บาท/หุ้น    
  กำไร4Q60 โดดเด่นทำสถิติสูงสุดใหม่ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น +12%YoY เติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรม
แนวโน้มปี 2561 คาดยังคงเด่นต่อเนื่อง แรงหนุนจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่คาดจะเติบโตต่อ รวมถึงประโยชน์จากการเข้าลงทุนในบริษัท SGAH ผู้ผลิตชิ้นส่วนในอินเดีย-โปรตุเกส-สหรัฐ-จีน 
ปรับประมาณการขึ้นโดยกำไรปกติปี 61 คาดโต 9%YoY , ปรับราคาเหมาะสมเป็น 39 จาก 35 บาท และปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ จากเดิม ถือ
  Trading idea – – ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่เป็นตัวแทนของแต่ละกลุ่ม : BJC, IRPC, ADVANC, BH, ERW, IVL, BGRIM, GOLD, LH, ATP30, JUBILE

Technical View

  ดัชนีพักตัวไม่ควรหลุดแนวรับ 1820: ดัชนีแกว่งพักตัวในกรอบ 1830-1840 โดยมีแรงซื้อหลักจากกลุ่มพลังงานและค้าปลีก โดยในช่วงท้ายตลาดดัชนีปิดโดดลง มองว่าหลังดัชนีเกิด False Break ที่ All Time High 1848 การพักตัวไม่ควรหลุด 1820 เพื่อจะยังคงรักษาโมเมนตัมการ Break High อีกครั้ง ฉะนั้นหากทดสอบแนวรับ 1820 แล้ว Rebound กลับมองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่น Rebound แต่หากหลุด 1820 แนะนำทยอยลดพอร์ตการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะกลาง เพื่อถือเงินสดให้มากขึ้น กลยุทธ์การลงทุน 1) ลงทุนสั้น-กลาง หากหลุด 1820 ลดพอร์ต หรือหาก Rebound แนะนำขายทำกำไร 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวสู่แนวรับ 1820 แล้วเริ่ม Rebound ถือเป็นจังหวะเข้าซื้อเพื่อ Trading
  แนวรับ : 1820, 1810 แนวต้าน : 1835, 1843

Eyes on
  ปัจจัยต่างประเทศ : : ประชุม FOMC 21 มีค.นี้
  ปัจจัยในประเทศ : สนช.พิจารณา พ.ร.ป. การเลือกตั้งส.ส. และที่มา ส.ว.

หุ้นเทคนิค:
  BEAUTY (B 20.80-21.00, Tp 22.50//23.00, Cut 20.60)
  CPALL (B 83.00, Tp 86.00, Cut 82.00)