ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้               
ปรับลง ตามปัจจัยลบต่างประเทศ
  KGI คาด SET วันศุกร์ปรับลดลง รับรู้จิตวิทยาเชิงลบจากตลาดหุ้นโลก + สิ้นสุดการรายงานงบไตรมาส 4/2560 แล้ว (เมื่อวันพุธ ดัชนีฯ ผันผวนแรงตลอดวัน ก่อนปิดเกือบไม่เปลี่ยนแปลง ใกล้เคียงที่คาด) ทั้งนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงต่อเนื่อง โดยดัชนีฯ ดาวโจนส์ลดลงรวม 3.2% (วันพุธ + วันพฤหัสฯ) หลัง GDP ไตรมาส 4/60 ของสหรัฐฯ ถูกปรับลงเล็กน้อย และความกังวลต่อการกีดกันทางการค้าโลกกลับมาอีกครั้ง หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงกับเหล็กและอลูมิเนียม เพื่อช่วยผู้ผลิตสหรัฐฯ ทั้งนี้แม้บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ลดลง หลังตัวเลขเงินเฟ้อ core PCE ม.ค. +1.5% YoY ตามที่ consensus คาด แต่จิตวิทยาตลาดหุ้นโลกยังคงเป็นลบในระยะนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยในประเทศค่อนข้างดีและน่าจะช่วยจำกัดทางลงของ SET เมื่อวันพุธ ธปท. รายงานชุดข้อมูลเศรษฐกิจเดือน ม.ค. พบว่าเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนเติบโตแข็งแกร่ง น่าจะช่วยให้หุ้นเชื่อมโยงการบริโภค (Consumption plays) โดดเด่นต่อไป และในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า คาดว่าจะมีข่าวสารเชิงบวกเรื่องการเมืองภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการจองชื่อและจัดตั้งพรรคการเมือง รวมทั้งอาจมีการส่งสัญญาณถึงช่วงเวลาที่จะอนุญาตให้ทำกิจกรรมทางการเมืองอีกครั้ง

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   
เก็งกำไร SGP*, SIMAT, TOA
  SGP* (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) ประเมินแนวรับ 29.5 บาท / แนวต้าน ±32 บาท (Trailing stop 27.75 บาท) 2) Valuation ไม่แพง Trailing PE เพียง 10.1 เท่า (ค่าเฉลี่ย PE ในอดีตอยู่ที่ 10.6 เท่า ... เราตัดข้อมูลปีที่รายงานผลขาดทุนสุทธิออกจากการคำนวณ) 3) ปันผล 1 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend yield 3.3% (XD 8 มี.ค.) และแตกพาร์จาก 1.0 บาท/หุ้น เป็น 0.5 บาท/หุ้น (ส่งสัญญาณบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ ตาม Signalling hypothesis ทั้งการปรับ Payout ratio ขึ้นเป็น 49% จากปีก่อนที่ 41% และการแตกพาร์)
SIMAT (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) 1) ผลการดำเนินงาน 4Q60 คาดจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว โดยมีกำไรปกติจากการดำเนินงานแล้ว แต่มีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญราว 15.4 ล้านบาท ทำให้ปี 2560 รายงานผลขาดทุนสุทธิ 8.5 แสนบาท (หากตัดรายการดังกล่าวออก ปี 2560 จะมีกำไรปกติ 6.9 ล้านบาท) ขณะที่ธุรกิจ Label&stamping มีกำไร และธุรกิจอินเตอร์เนตบรอดแบนด์ขาดทุนลดลงต่อเนื่อง 2) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2561 จะ Turnaround ต่อเนื่องได้ จาก i) ธุรกิจอินเตอร์เนตบรอดแบนด์ ถึงจุดคุ้มทุน ไม่เป็นตัวถ่วงหนักแบบในอดีต ii) ธุรกิจ Label&Stamping  เริ่มรับรู้ออเดอร์ iPhone X ใน 1Q61 และต่อเนื่องกลางปีนี้ iPhone SE2 iii) เตรียมประกาศซื้อกิจการที่มีกำไรแล้ว 3) ประเมินราคาหุ้นเริ่มสร้างฐานที่แนวราคา ±3.5 บาท แนะนำ "เก็งกำไร" แนวรับ 3.46 บาท แนวต้านแรก 3.70 บาท และถัดไปที่ 4.10 บาท (Stop loss 3.30 บาท) 
  TOA (เป้าพื้นฐาน 40.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 34 บาท / แนวต้าน 35.5 บาท และถัดไปที่ 37 บาท (Trailing stop 33 บาท) 2) คาดผ่านจุดต่ำสุดใน 4Q60 ไปแล้ว โดยฝ่ายวิจัยฯคาด EPS ปีนี้จะกลับมาเติบโต +40% YoY จาก i) การปรับราคาขายสีขึ้น 5 - 8% ในเดือน ก.พ. ช่วยหนุนอัตรากำไรให้ฟื้นตัว (ปีก่อนอัตรากำไรขั้นต้นถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับขึ้น) ii) การขยายกำลังการผลิตในต่างประเทศ (คาดเริ่มเดินเครื่องใน 2H61) iii) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคอสังหาฯที่กลับมาเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมากในปีนี้

หุ้นในกระแส
  นายกฯ กำหนดกรอบเวลาเลือกตั้งชัดเจนไม่เกิน ก.พ. 62 เราประเมินจะเป็น Sentiment บวกมาที่หุ้นในกลุ่ม Domestic play ที่คาดจะได้อานิสงส์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย 
  i) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (รับอานิสงส์เศรษฐกิจโต + ดอกเบี้ยขาขึ้น) เลือก BBL*, KBANK*
  ii) กลุ่มค้าปลีก (รับอานิสงส์เศรษฐกิจโต + ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นต่อเนื่อง) เลือก COM7*, CPALL*, MAKRO
  iii) กลุ่มสื่อ (รับอานิสงส์เศรษฐกิจโต + ผ่านจุดต่ำสุดใน 4Q60) เลือก MONO*, RS, PLANB
  iv) กลุ่มนิคมฯ (รับอานิสงส์โครงการ EEC) เลือก AMATA*, WHA*

หุ้นมีข่าว
  (+) BGRIM โตแรง 55%ปี 2560 กำไรเฉียด 3,600 ล้านบาท อีบิตดา 8,725 ล้านเพิ่มขึ้น 16% (โพสต์ทูเดย์) บี.กริม ปี 2560 โตเกินคาด กำไรเฉียด 3,600 ล้าน ย้ำเป้าปีนี้เพิ่มกำลังผลิตกว่า 400 เมกะวัตต์ นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า ปี 2560 บริษัทมีรายได้รวม 3.14 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 14% มีกำไรสุทธิ 3,594 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% จากปีก่อน และกำไรสุทธิปรับปรุง 2,918 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากปีก่อน
  (+) BCPG จ้อง M&A ผลิตไฟฟ้าเพิ่มอัพรายได้ 20% (ทันหุ้น) BCPG ซุ่มดีล M&A โรงไฟฟ้าแถบเอชีย รวมกำลังผลิตราว 150 เมกะวัตต์ คาดชัดเจนภายในปีนี้ พ่วงขยายฐานไฟฟ้าเพิ่ม ชี้หากลุล่วงดันกำลังผลิตไฟฟ้ากระฉูด จากเดิมที่ราว 600 เมกะวัตต์ พร้อมวางหมากปี 2561 รายได้ทะยาน 20% จากปีก่อน อานิสงส์เก็บเกี่ยวยอดขายไฟฟ้าพุ่ง
  (+) ECF ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์รุ่งลุยปั๊มรายได้ทะยาน 10% (ทันหุ้น) ECF ฟอร์มดี ธุรกิจหลักเฟอร์นิเจอร์ กำไรทำนิวไฮพุ่ง 29% โชว์ผลงานปี 2560 กวาดรายได้รวม 1,478.68 ล้านบาท กำไรรวมพุ่ง 17% แตะ 73.05 ล้านบาท กางแผนปี 2561 ตั้งเป้ารายได้โต 10-12% ชูกลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุนการผลิต หนุนกำไรธุรกิจเฟอร์นิเจอร์โตต่อเนื่อง พร้อมรับรู้รายได้ธุรกิจพลังงาน

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  COM7* (เป้า Consensus 20.2 บาท) ประเมินแนวรับ 19 บาท และ 18.7 บาท / แนวต้าน 20 บาท (Trailing stop 17.7 บาท) 
  TVD (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 2.02 บาท แนวต้าน 2.30 บาท และถัดไปที่ 2.60 บาท (Stop loss 2.0 บาท) ... แจก TVD-W2 อัตราส่วน 4 หุ้นเดิม ต่อ 1 Warrant และล้างขาดทุนสะสม (ส่งสัญญาณผลการดำเนินงานฟื้นตัวปีนี้ พร้อมจ่ายปันผล)

สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  MAKRO (ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” เป้าพื้นฐาน 42 บาท) แม้ว่าเราประเมิน SSSG จะเร่งตัวสู่ 4.0% ในปี 2561 เทียบกับ 1.7% ในปี 2560 แต่ค่าใช้จ่ายด้าน SG&A ที่น่าจะสูงขึ้นตามแผนการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ น่าจะกดดันกำไรของ MAKRO ในปี 2561 ให้เติบโตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่อผนวกกับ upside สู่ราคาเป้าหมายที่มีจำกัด เราจึงปรับลดคำแนะนำลง
  MALEE (ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” เป้าพื้นฐาน 26 บาท) จาก opportunity day ล่าสุด เราประเมินว่าการฟื้นตัวของผลประกอบการอาจถูกเลื่อนออกไปอีก เนื่องจากค่าใช้งานในการบริหารและการเข้าสู่ธุรกิจใหม่ อยู่ในระดับสูง ประกอบกับสัดส่วนหนี้ต่อทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นด้วย เราลดประมาณการกำไรปี 2561-2562 ปีละ 40% และลดเป้าพื้นฐานสู่ 26 บาท แนะนำเพียง “ถือ”

Market strategy      Thailand
  จิตวิทยาตลาดวันนี้:  ---   กรอบราคา 1835 – 1827 จุด
   วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1835 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1835-1855 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1827 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1827-1803 จุด
  แนวรับวันนี้:          1827/1807                แนวต้านวันนี้:          1835/1848

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ