คำแนะนำ
หากราคาไม่หลุด 1,327-1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอเสี่ยงเปิดสถานะซื้อในบริเวณดังกล่าว(ตัดขาดทุนหากหลุด 1,316ดอลลาร์ต่อออนซ์) เน้นการลงทุนระยะสั้นและไม่ควรถือสถานะจำนวนมาก
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,327 1,316 1,308
แนวต้าน 1,345 1,356 1,366
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัว 14.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์หลังการประกาศเดินหน้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งในวงกว้างทั้งกับนานาประเทศ และความขัดแย้งภายในทำเนียบขาว โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนโดยเฉพาะนายแกรี่ โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ประกาศว่าจะลาออกหากประธานาธิบดีทรัมป์ยังเดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าดังกล่าว ประกอบกับคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐดิ่งลงมากที่สุดในรอบ 6 เดือนในเดือนม.ค.ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าและหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,338.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน ล่าสุดเช้าวันนี้ตามเวลาไทย นายแกรี่ โคห์น ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สถานการณ์ดังกล่าวกดดันดอลลาร์เพิ่ม ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกอาจปรับตัวลดลงตามดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลงกว่า 300 จุดในช่วงเช้านี้ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขสหรัฐ อาทิ การจ้างงานภาคเอกชน จาก ADP และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ(Beige Book)
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำยังไม่หลุดต่ำกว่าแนวรับโซน 1,327-1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังมีโอกาสลุ้นขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,345-1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดต่ำกว่าแนวรับแรก ราคาทองคำอาจย่อลงมาที่ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งต้องระวังหากราคาทองคำปรับตัวลงเข้าใกล้โซนดังกล่าว
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,327-1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจพิจารณาแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,345 -1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น