สภาวะตลาดวันที่ 07 มีนาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,331.10-1,340.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,800 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ18 อยู่ที่ 19,880 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,810 บาท

  (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.16 น. ของวันที่ 07/03/61)

แนวโน้มวันที่ 08 มีนาคม 2561
  นายแกรี โคห์น  ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระดับสูงของทำเนียบขาว ประกาศลาออก เพื่อประท้วงการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่จะตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กกล้าและอลูมิเนียม ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐและสงครามการค้า ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับกลุ่มสกุลเงินต่างๆ อ่อนตัวลงทดสอบจุดต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ จนดันราคาทองคำปรับตัวขึ้น นักลงทุนจับตาความตึงเครียดทางการค้าที่จะขยายตัวไปเป็นสงครามการค้าหรือไม่ เพื่อใช้เป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาทองคำ ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยว่า EC จะตอบโต้"อย่างแข็งกร้าว" ต่อมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ โดย EC ได้ร่างรายการผลิตภัณฑ์สหรัฐ มูลค่า 2.8 พันล้านยูโร (3.46 พันล้านดอลลาร์) ที่ EC อาจจะเก็บภาษี 25% ทั้งนี้ นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้าและผลกระทบทางเศรษฐกิจระดับมหภาคของการกำหนดภาษีนำเข้าของสหรัฐ จะมีความรุนแรง หากประเทศอื่นๆตอบโต้ด้วยการกำหนดภาษีของตนเอง ขณะเดียวกันทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มจากสกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ นักลงทุนคาดหวังว่าการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะส่งสัญญาณยุติแนวโน้มเชิงผ่อนคลายในการประชุมกำหนดนโยบายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB แทบจะไม่ได้แสดงความเร่งด่วนต่อสาธารณะในการทำเช่นนั้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนคาดว่า ECB จะเตรียมใช้นโยบายการเงินเข็มงวดมากขึ้นในช่วง ไตรมาส 4/2561 หลังจากที่แผนการใช้มาตรการ QE สิ้นสุดในเดือน ก.ย. ปีนี้  เบื้องต้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,327-1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ประเมินว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นในระยะสั้น โดยประเมินแนวต้านที่บริเวณ 1,345-1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้จะเกิดการย่อตัวลงมาเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง

  กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,345-1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,327-1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่ามีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,327-1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์

ทองคำแท่ง (96.50%) 
แนวรับ            1,327 (19,650บาท) 1,316 (19,450บาท)        1,308 (19,350บาท)
แนวต้าน          1,345 (19,950บาท) 1,356 (20,100บาท)        1,366 (20,250บาท)             
  
GOLD FUTURES (GFJ18)
แนวรับ            1,327 (19,790บาท) 1,316 (19,630บาท)        1,308 (19,510บาท)
แนวต้าน          1,345 (20,070บาท) 1,356 (20,230บาท)        1,366 (20,380บาท)