ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน ไซด์เวย์/มีเด้งบ้าง (08/03/61)


 ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้               

ไซด์เวย์/มีเด้งบ้าง ติดตามผลโหวตกฎหมายเลือกตั้งวันนี้
  KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ไซด์เวย์/รีบาวด์กรอบจำกัด แรงกดดันจากปัจจัยภายนอกลดลง + นักลงทุนรอผล สนช. โหวตกฎหมายเลือกตั้ง 2 ฉบับในวันนี้ (เมื่อวาน ดัชนีฯ ลงต่อและผันผวน ตามคาด) สำหรับปัจจัยภายนอกนั้น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก (ฟื้นตัวจากที่ร่วงหนักระหว่าง ชม. ซื้อขาย) หลังเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวส่งสัญญาณว่ามีความเป็นไปได้ที่มาตรการภาษีนำเข้าเหล็ก/อลูมิเนียมนั้น จะยกเว้นให้กับแคนาดาและเม็กซิโก (ตลาดมองว่าเป็นเกมการเมืองมากกว่าสงครามการค้าอย่างแท้จริง) อย่างไรก็ดีข่าวสารเกี่ยวกับภาษีต่างๆ ของสหรัฐฯ ยังเปราะบางและเปลี่ยนแปลงได้ตลอด (ต้องติดตามใกล้ชิด) นอกจากนี้ตลาดน่าจะยังชะลอก่อนการรายงานตัวเลขค่าจ้างแรงงาน ก.พ. ของสหรัฐฯ ในค่ำวันศุกร์นี้ตามเวลาบ้านเรา สำหรับปัจจัยภายใน เราให้น้ำหนักว่า สนช. จะโหวตผ่านกฎหมายเลือกตั้ง หลังวานนี้ประธาน สนช. ส่งสัญญาณว่าไม่มีเหตุคว่ำกฎหมายแต่อาจยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความในบางประเด็น ซึ่งจะไม่กระทบต่อกำหนดการเลือกตั้งใน ก.พ. 2562 ทั้งนี้ฝ่ายวิจัย KGI ยังคงมุมมองว่าความเสี่ยงทางลงของการปรับฐานเดือนนี้อยู่ที่ 1,760-1,770 จุด (การประเมินด้วยวิธี earnings yield gap และด้วยวิธี current PE band ให้ผลที่ใกล้เคียงกันแถวๆ ระดับดังกล่าว)

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   
เก็งกำไร KTB*, SAT, COM7*
  KTB* (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) 1) ประเมินแกว่งตัว Sideway up แนวรับ 19.7 บาท / แนวต้าน 20.5 บาท และถัดไปที่ 20.8 บาท (Stop loss 19.5 บาท) 2) ประเด็นข่าว ศาลฯพิพากษายกเลิกคำสั่งระงับขายที่ดิน AQ 4.3 พันไร่ เพื่อจ่ายหนี้คืนให้กับ KTB* (ที่มา: นสพ. ข่าวหุ้น) เราประเมินเป็น Sentiment บวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3) Valuation ไม่แพงด้วย PBV 0.97 เท่า เทียบ ROE ปี 2561 - 62 ที่ 9 - 10% และปันผล 0.61 บาท/หุ้น Dividend yield 3.1% (ขึ้น XD วันที่ 7 พ.ค.) 
  SAT (เป้า Consensus 22.9 บาท) 1) เราประเมิน กรณีที่สหรัฐฯประกาศเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจริง มีโอกาสที่จะทำให้ราคาเหล็กในเอเชียรวมถึงไทยลดลง เป็นบวกกับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ใช้เหล็กเป็นวัตถุดิบในการผลิต อย่าง SAT และคาดด้วยต้นทุนการผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯที่จะกลับสูงขึ้น จะทำให้ความสามารถในการแข่งขันเพื่อการส่งออกรถยนต์ของสหรัฐฯลดลง เป็นบวกต่อการส่งออกรถยนต์ของไทย 2) Consensus ประเมินกำไรปกติ (ตัดกำไรจากการขายสินทรัพย์ใน 4Q60) ปี 2561 โต +14% YoY เป็น 773.4 ล้านบาท คิดเป็น EPS 1.82 บาท/หุ้น และ PE ต่ำเพียง 11.4 เท่า 3) ประเมินแนวรับ 20.6 บาท / แนวต้าน 22 บาท (Stop loss 20.6 บาท) ... ปันผล 0.65 บาท/หุ้น Dividend yield 3.1% (XD วันที่ 28 ก.พ.)
  COM7* (เป้า Consensus 20.2 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้นพักฐานที่แนวรับหลังปรับขึ้นแรงตามคาดแล้ว เป็นโอกาสซื้อเก็งกำไร ประเมินแนวรับ 18.3 บาท / แนวต้าน 20 บาท (Trailing stop 17.5 บาท) 2) เราประเมินความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง (เริ่มให้มีการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองแล้ว วันนี้ สนช พิจารณาร่างกฏหมายฯ และนายกฯ กำหนดกรอบการเลือกตั้งไม่เกิน ก.พ.2562) จะทำให้ Sentiment เศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศเป็นบวกต่อเนื่องได้ 3) ประเมินดีมานด์ สินค้าไอที ยังเติบโตรองรับยุคดิจิตอล และผู้ประกอบการหลักทยอยออกสินค้ารุ่นใหม่ๆ เช่น Samsung S9, และ iPhone เตรียมเปิดตัว iPhone SE2 เป็นต้น โดย Consensus ยังคาดกำไรปีนี้โต +22.2% YoY

หุ้นมีข่าว
  (+) KTB* การขายที่ดินของ AQ ที่เป็นหลักประกันหนี้ KTB ทำได้สำเร็จ โดยที่ดินที่ผ่านการขายทอดตลาดผ่านกรมบังคับดคีครั้งนี้อยู่ที่ 4300 ไร่ ซึ่งมีราคาประเมินคาดว่าอยู่ที่ 13 พันล้านบาท โดยภายหลังการทำให้ KTB จะได้รับชำระหนี้คืนเร็วนี้  ความเห็น: KTB ได้ปล่อยกู้ 8300 ล้านบาท ซึ่งหนี้ดังกล่าวได้กลายเป็น NPL มาหลายปี ทั้งนี้ AQ ได้ชำระหนี้คืนบางส่วนแก่ KTB  ใน 3Q60 ประมาณ 1.6 พันล้านบาท ส่วนเงินกู้ที่เหลือคาดว่าจะได้รับชำระคืนทั้งหมดเร็วๆ นี้ เราคาดว่า KTB จะบันทึกหน้ชำระคืนผ่านงบดุลในรูปสำรองส่วนเกิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มสัดส่วน NPL coverage เป็น 128% จาก 121% ปลายปี 2560 (Neutral, ราคาเป้าหมาย 19 บาท)
  (+) PTTEP* แจ้งข่าวเมื่อวานนี้ว่าอินโดนีเซียได้ถอนฟ้องคดีความเกี่ยวกับเหตุการณ์มอนทารา (SET) Comment รัฐบาลอินโดนีเซียได้เรียกร้องค่าชดเชยจาก PTTEP และ PTTEP Australasia จำนวน 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับผลกระทบจากการรั่วไหลของ Montara ในปี 2552 กับศาลแขวงจาการ์ตาในวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 ถึงแม้ว่าเราจะมีมุมมองที่เป็นบวกเล็กน้อยสำหรับการถอนฟ้องคดีความเกี่ยวกับเหตุการณ์มอนทารา แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอินโดนิเซียให้เหตุผลของการถอนฟ้องครั้งนี้เพื่อแก้ไขคำฟ้องใหม่ให้ถูกต้อง หมายความว่ารัฐบาลอินโดนิเซียจะยื่นฟ้อง PTTEP เรื่องนี้ใหม่อีกครั้งในอนาคต เรายังคงคำแนะนำ"ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลง 113.00 บาท
  (+) IRPC* ลุยนิคมรับอีอีซี ดึงพันธมิตรร่วมพัฒนา ปลายปีสรุปพร้อมเปิดขายทันที มั่นใจรายได้โตต่อเนื่อง (โพสต์ทูเดย์) ไออาร์พีซีปรับแผนเลิกขายที่ดิน 2,000 ไร่ หันมาทำนิคมอุตสาหกรรมระยองรับสิทธิประโยชน์รัฐบาลสรุปผู้ร่วมลงทุนปลายปีนี้ นางรัชดาภรณ์ ราชเทวินทร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนพัฒนาที่ดินกว่า 2,000 ไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เป็นนิคมอุตสาหกรรมจากเดิมที่จะขายเพราะมองว่าไม่ใช่ธุรกิจหลัก แต่หลังจากเปิดซองประมูลปรากฏว่ามีผู้สนใจน้อยรายมากและให้ราคาไม่ดี ประกอบกับการที่รัฐบาลมีโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จึงคิดว่ามูลค่าที่ดินจะสูงขึ้นได้ จึงตัดสินใจทำนิคมอุตสาหกรรม
  (+) ROBINS* ทุ่ม 1.5 หมื่นล้านเพิ่มสาขารับกำลังซื้อฟื้น (กรุงเทพธุรกิจ) โรบินสันตั้งเป้าหมาย 5 ปี เปิดห้างสรรพสินค้า 10-15 แห่ง อัดงบลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท หลังเห็นกำลังซื้อฟื้นตัว ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 4%
  (+) PTTGC* จับมือคูราเร-ซูมิโตโม รุกธุรกิจ PA9T-HSBC เสริมแกร่งปิโตรเคมี (ข่าวหุ้น) PTTGC* ผนึกกำลัง “Kuraray-Sumitomo” รุกธุรกิจ “PA9T-HSBC” สยายปีกธุรกิจปิโตรเคมี มั่นใจงบไตรมาสแรกเติบโตต่อเนื่อง อานิสงส์ราคาน้ำมันพุ่ง-เดินเครื่องผลิตเต็มกำลัง
  (-) JMART* ชี้บริษัทลูกตั้งสำรองบาน ฉุดกำไรปีนี้ทรงตัวใกล้เคียงปี 60 (ข่าวหุ้น) “JMART*” หั่นเป้ากำไรปี 2561 ทรงตัวจากปีก่อน จากเดิมคาดโต 30% เหตุบริษัทลูก “เจ ฟินเทค-SINGER” ตั้งสำรองหนี้เสียบานในงบไตรมาส 1-2 ของปีนี้

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  TOA (เป้าพื้นฐาน 40.5 บาท) ประเมินแนวรับ 34.25 บาท / แนวต้าน 37 บาท (Trailing stop 33.75 บาท) 
  SIMAT (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) ประเมินแนวรับ 3.30 บาท / แนวต้าน 3.58 บาท และถัดไปที่ 4.10 บาท (Trailing stop 3.30 บาท)  
  SGP* (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 28.5 บาท / แนวต้าน 30 บาท และถัดไปที่ 31.5 บาท (Trailing stop 27 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  BDMS* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 25 บาท จากที่ประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการกำไรปี 2561 ลง 3.4% โดย i) เพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้เป็น 8.6% จากเดิม 6% แต่ ii) ปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลงเหลือ 30.7% จากเดิม 31% และ iii) ปรับเพิ่มสมมติฐานค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 220 ล้านบาท
  CK* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 32.1 บาท จากที่ประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก Backlog ณ สิ้นปี 2560 เพิ่ม 27.3% YoY เป็น 7.22 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดียอดการรับรู้รายได้ในปี 2561 อาจชะลอตัวลง เนื่องจากมีหลายโครงการได้ทำการส่งมอบแล้ว แต่ฝ่ายวิจัยฯประเมินการประมูลโครงการจำนวนมากใน 2H61 จะเป็นปัจจัยกระตุ้น Sentiment การลงทุนอีกครั้ง

Market strategy      Thailand
  จิตวิทยาตลาดวันนี้:  ---   แนวรับเส้นคอรูปแบบราคาที่รับ 1780 จุด
   วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1780 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1780-1795 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่ารับ 1780 จุดนั้น อาจรักษาแรงกดลงต่อเนื่องในกรอบ 1780-1753 จุด
  แนวรับวันนี้:          1780/1757                       แนวต้านวันนี้:          1789/1795

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 มี.ค. 2561 เวลา : 10:13:39

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:12 pm