คำแนะนำ
ยังมีลุ้นที่ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,329 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,308-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,308 1,294 1,283
แนวต้าน 1,329 1,341 1,352
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 3.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% จากประเทศต่างๆ ยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโก พร้อมกับส่งสัญญาณเปิดทางให้ประเทศอื่นๆสามารถเจรจากับสหรัฐเพื่อขอการยกเว้นภาษีดังกล่าวได้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนบางส่วนคลายความกังวลเกี่ยวกับประเด็นสงครามทางการค้าได้บ้าง ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า ส่วนดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้เกิดแรงขายในตลาดทองคำ อย่างไรก็ดีราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินยูโรที่ทรงตัวรักษาระดับไว้ได้ หลังผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ที่มีมติคงนโยบายการเงินไว้ แต่ยุติคำมั่นในการซื้อพันธบัตรต่อซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ECB กำลังเตรียมชะลอและยุติการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินในไม่ช้า สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) และจับตาการเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงานของสหรัฐ ทั้ง การจ้างงานนอกภาคการเกษตร, อัตราการว่างงานและรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงแรงงานซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของเฟด
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องขณะที่การดีดตัวกลับค่อนข้างจำกัด หากราคาทองคำสามารถสร้างฐานเหนือแนวรับ 1,308 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,329 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำหลุดแนวรับดังกล่าว มีโอกาสปรับตัวลงไปหาแนวรับถัดไปที่ 1,294 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำให้แบ่งขายทองคำออกขายเพื่อทำกำไร หากราคาทองคำขยับขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,329 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไม่ได้ และหากรับความเสี่ยงได้เข้าซื้อคืนเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1,308-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยไม่ควรลงทุนมากเกินไปและควรคำนึงถึงความเสี่ยงจากการแกว่งตัวของราคา
ข่าวเด่น