สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -2.74 จุด แรงขายต่างชาติกดดันแม้สนช.ผ่าน 2 กม.ลูก

  SET แกว่งผันผวนในกรอบ 1772-94 โดยระหว่างวันค่อย ๆ ขยับขึ้น ขานรับสนช.เห็นชอบร่างพ.ร.ป. การเลือกตั้ง ส.ส. และ ที่มา ส.ว. แต่มีแรงขายลดความเสี่ยง เนื่องจากนลท.ยังระมัดระวังต่อสถานการณ์การค้าโลก และรอดูผลประชุม ECB, BOJ ต่างชาติขายสุทธิ 1.56 พันลบ. 2 วันติด แต่พลิก Long S50 Futures สูงถึง 11,716 สัญญา

ทิศทางตลาดวันนี้ : ลุ้นรีบาวด์ การเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ไม่มากเท่าตลาดกลัว
  หุ้นโลกเมื่อวาน (8 มี.ค.) ฟื้นตัวขึ้นต่อ หลังปธน.ทรัมป์ลงนามจัดเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมแต่ไม่รวมแคนาดาและเม็กซิโก พร้อมเปิดช่องเจรจากับปท.อื่น ช่วยให้สถานการณ์ผ่อนคลายลงต่อเนื่อง ด้านราคาน้ำมัน WTI ร่วง 2 วันติด ปิดที่ 60.12$/bbl ต่ำสุดในรอบ 1 เดือน กังวลสต็อกน้ำมันและแนวโน้มการผลิตของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น มอง SET น่าจะเริ่มแกว่งยืนได้แถว 1770-80 และมีลุ้นรีบาวด์ จาก (1) สนช.เห็นชอบร่างพ.ร.ป. 2 ฉบับแล้ว คาดจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นของนลท.ต่อประเด็นการเมืองได้ (2) การจัดเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ไม่มากเท่าที่ตลาดกลัว อาจแค่นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการค้ามากกว่าที่จะเป็นสงคราม (3) สถานการณ์เกาหลีเหนือดีขึ้นหลังทรัมป์ตอบรับคำเชิญเยือนเกาหลีเหนือ พ.ค. นี้ (4) ตลาดร่วงมา 7 วันติดแล้ว ในเชิงสถิติโอกาสที่จะร่วงเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันมีไม่ถึง 2% แนะติดตามทิศทางเงินทุนตปท.หากพลิกเป็นไหลเข้า คาดจะหนุนให้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้ดีขึ้น แนวรับ 1770+/-, 1758-60 แนวต้าน 1790-95 อนึ่ง คาดไม่มีหุ้นติด Cash Balance เย็นนี้ / ASAP, DDD, GULF, HUMAN, JKN ติด Cash Balance สุดท้ายวันนี้ (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)

กลยุทธ์การลงทุน : รีบาวด์เป็นจังหวะขายลดพอร์ต, เก็งกำไรอย่างระมัดระวัง
  แม้ SET มีโอกาสรีบาวด์ในระยะสั้น แต่มองเป็นจังหวะขายลดพอร์ต-ถือเงินสดเพิ่ม รอจังหวะซื้อคืนรอบใหม่ดีกว่า การเข้าเก็งกำไรระยะสั้นทำอย่างระมัดระวัง / มอง SET แกว่งอยู่ในกรอบ 1760-1800 โดยหากลงหลุด 1760 สถานการณ์จะดูแย่ลง แนะรอซื้อคืนแถว 1700-1720 และ 1670-80 ตามลำดับ ในทางกลับกัน หากขึ้นมายืน 1800 ได้จะดูดีขึ้น มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1820-30 และ 1850 ตามลำดับ

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick ROJNA – แนวโน้มกำไรปีนี้สดใส คาดกำไรหลักโต 17% จากการรันโรงไฟฟ้า SPP3 ใน 3Q17 เข้ามาแบบเต็มปี และคาดยอดขายที่ดินจะดีขึ้นมากที่ 500 ไร่, ร่างพ.ร.บ.EEC น่าจะมีผลบังคับใช้เดือนนี้จะช่วยกระตุ้นราคาหุ้นนิคมฯ, ปันผล 20 สต./หุ้น XD 3 พ.ค., เป้าพื้นฐาน 8.5 บ. / หุ้นที่แนวโน้มกำไรดี ตลาดมีโอกาสปรับกำไรและเป้าหมายราคาหุ้นขึ้น – AH, BEAUTY, ERW, HMPRO, IRPC, JWD, PTT, PTTGC, RJH, SAT, WHAUP / การทบทวนดัชนี FTSE รอบนี้ (มีผล 19 มี.ค.) 1. FTSE Large Cap : เข้า - SCC, TOP ออก - SCC-F, SCC-R (NVDR) 2. FTSE Mid Cap : เข้า - ไม่มี ออก – TOP (ยกชั้นไปสู่ Large Cap) 3. FTSE Small Cap : เข้า - M, BCPG, ORI ออก - DCC, TLGF / หุ้นปันผลดี (Div. Yield > 3%) ชอบ AP, ASEFA, ASK, ASP, BR, CPT, DRT, ESTAR, FTE, GLOW, HARN, IRPC, KKP, KTB, MSC, NYT, PDI, PL, PRIN, PSH, PT, ROJNA, SAT, SC, SIRI, SPRC, TK, TMT, UVAN / หุ้นอิงการลงทุนภาครัฐ-ผลักดัน EEC หนุนลงทุนเอกชนฟื้นตาม – นิคม AMATA, ROJNA, WHA รับเหมา – CK, STEC, UNIQ, SEAFCO / แบงก์ – BBL, KBANK / หุ้นอิงศก.-การบริโภคในปท.รับการเลือกตั้ง – BEAUTY, COM7, PLANB, VGI / หุ้นมีอนาคต กำไรเติบโตสูง – ASAP, JWD, MINT, ORI
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ JWD (เป้าสั้น 11.2 บ.) / ถือ AMA (17.5 บ.), CPALL (87 บ.), TU (21.5 บ.) / ขายตัดขาดทุน HANA (-3.5%)
• หุ้นเด่น มี.ค. (Smart Tactics) AEONTS, ANAN, BBL, EGCO, LH, PTTGC, SCB, SCC

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research